ข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ว่าด้วยการบริหารงานสำนักงานบริหารทรัพย์สินและกีฬา พ.ศ. ๒๕๖๗
…………………………………………………
โดยที่เป็นการสมควรกำหนดให้มีข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยการบริหารงานสำนักงานบริหารทรัพย์สินและกีฬา เพื่อให้มีความคล่องตัวและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๓ (๒) (๓) (๔) และมาตรา ๕๑ วรรคสอง
แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๕๘ สภามหาวิทยาลัยในการประชุมครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๗
เมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๗ ออกข้อบังคับไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยการบริหารงานสำนักงานบริหารทรัพย์สินและกีฬา พ.ศ. ๒๕๖๗”
ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิก
(๑) ข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยสำนักงานบริหารทรัพย์สินและกีฬา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๖๑
(๒) ข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยสำนักงานบริหารทรัพย์สินและกีฬา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑
ข้อ ๔ ในข้อบังคับนี้
“มหาวิทยาลัย” หมายความว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“อธิการบดี” หมายความว่า อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“สำนักงาน” หมายความว่า สำนักงานบริหารทรัพย์สินและกีฬา
“ผู้อำนวยการ” หมายความว่า ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารทรัพย์สินและกีฬา
“คณะกรรมการบริหาร” หมายความว่า คณะกรรมการบริหารทรัพย์สินและกีฬา
“ทรัพย์สิน” หมายความว่า ทรัพย์สินที่เป็นที่ดิน อาคาร หรือสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งระบบสาธารณูปโภค ทั้งที่เป็นที่ราชพัสดุซึ่งมหาวิทยาลัยปกครองดูแลใช้ประโยชน์ และที่เป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัย และให้หมายความรวมถึงวัสดุและครุภัณฑ์ของมหาวิทยาลัยที่ใช้อยู่ในหรือบนทรัพย์สินนั้นตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับนี้หรือที่อธิการบดีมอบหมายให้สำนักงานมีหน้าที่ปกครองดูแลและจัดหาประโยชน์
“พนักงานสำนักงาน” หมายความว่า พนักงานมหาวิทยาลัยที่จ้างด้วยเงินรายได้ของสำนักงาน
“ลูกจ้างสำนักงาน” หมายความว่า ลูกจ้างของมหาวิทยาลัยที่จ้างด้วยเงินรายได้ของสำนักงาน
ข้อ ๕ ให้อธิการบดีเป็นผู้รักษาการตามข้อบังคับนี้ และให้มีอำนาจออกประกาศมหาวิทยาลัย
เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อบังคับนี้
หมวด ๑
วัตถุประสงค์ ภารกิจ หน้าที่และอำนาจ
ข้อ ๖ สำนักงานเป็นส่วนงานของมหาวิทยาลัยที่มีวัตถุประสงค์และภารกิจในการบริหารทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยเพื่อให้เกิดรายได้และประโยชน์สูงสุดแก่มหาวิทยาลัย รวมทั้งส่งเสริม สนับสนุน
และร่วมมือกับส่วนงานของมหาวิทยาลัยเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัย
ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์และภารกิจตามวรรคแรก ให้สำนักงานมีหน้าที่
และอำนาจบริหารและจัดหารายได้จากทรัพย์สินที่ประกอบด้วยอาคารที่พักอาศัย โรงอาหาร สนามกีฬา
พื้นที่ธุรกิจ อาคารศูนย์ประชุม อาคารอบรมสัมมนา อาคารจอดรถ ลานจอดรถ และที่ดินอันเป็นที่ตั้งของอาคารและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว ตลอดจนทรัพย์สินอื่นที่เป็นของมหาวิทยาลัย ตามที่อธิการบดีมอบหมาย
รวมถึงการให้บริการจัดกิจกรรม การจัดสอบหรือการอบรมสัมมนาภายในพื้นที่มหาวิทยาลัย และหน้าที่อื่นตามที่สภามหาวิทยาลัยหรืออธิการบดีมอบหมาย ทั้งนี้ การดำเนินการตามภารกิจของสำนักงานที่มี
ความจำเป็นต้องดำเนินการในพื้นที่นอกมหาวิทยาลัย ต้องได้รับการอนุมัติจากอธิการบดี
ในการดำเนินการจัดหารายได้จากกิจการที่มีผลกระทบโดยตรงต่อนักศึกษาและผู้ปฏิบัติงาน
ในมหาวิทยาลัย สำนักงานต้องกำหนดอัตราเรียกเก็บที่เหมาะสมกับการจัดเพื่อเป็นสวัสดิการแก่นักศึกษา
และผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัย
หมวด ๒
คณะกรรมการบริหารทรัพย์สินและกีฬา
ข้อ ๗ ให้มีคณะกรรมการบริหารประกอบด้วย
(๑) อธิการบดี เป็นประธานกรรมการ
(๒) รองอธิการบดีหรือผู้ช่วยอธิการบดีที่อธิการบดีมอบหมายให้ดูแลงานด้านการคลัง กิจการนักศึกษา บริหารศูนย์รังสิต บริหารศูนย์ท่าพระจันทร์ บริหารศูนย์ลำปาง และบริหารศูนย์พัทยา เป็นกรรมการ
(๓) กรรมการที่อธิการบดีแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารธุรกิจ กฎหมาย การเงิน
การบัญชี หรือด้านอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหารสำนักงาน จำนวนไม่น้อยกว่าห้าคนแต่ไม่เกินเก้าคน
(๔) ผู้อำนวยการ เป็นกรรมการและเลขานุการ
อธิการบดีอาจมอบหมายให้กรรมการตาม (๒) คนใดคนหนึ่งเป็นรองประธานก็ได้
ให้รองผู้อำนวยการที่ผู้อำนวยการมอบหมายเป็นผู้ช่วยเลขานุการและให้ผู้อำนวยการแต่งตั้งพนักงานสำนักงานอีกหนึ่งคนเป็นผู้ช่วยเลขานุการอีกก็ได้
ข้อ ๘ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามข้อ ๗ (๓) มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสามปี
และอาจได้รับการแต่งตั้งใหม่อีกก็ได้
นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวรรคหนึ่ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามข้อ ๗ (๓) พ้นจากตำแหน่งเมื่อ
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(๔) เป็นหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
(๕) ถูกจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำ
โดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
ข้อ ๙ ในกรณีที่กรรมการในคณะกรรมการบริหารว่างลงไม่ว่าด้วยเหตุใด และยังไม่มี
การดำเนินการให้ได้มาซึ่งกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่าง ให้คณะกรรมการบริหารประกอบด้วยกรรมการ
เท่าที่มีอยู่
ข้อ ๑๐ ในกรณีที่กรรมการในคณะกรรมการบริหารพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ
เมื่อได้มีการดำเนินการแต่งตั้งกรรมการแทนแล้ว ให้กรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งแทนมีวาระการดำรงตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ที่ตนแทน
ข้อ ๑๑ คณะกรรมการบริหารมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
(๑) กำหนดนโยบายของสำนักงาน ให้สอดคล้องกับแนวนโยบาย วัตถุประสงค์และภารกิจ
ของสำนักงาน
(๒) พิจารณาวางนโยบาย แผนงาน และการบริหารงานของสำนักงานให้สอดคล้องกับแนวนโยบายของมหาวิทยาลัยเพื่อเสนออธิการบดีพิจารณาอนุมัติ
(๓) พิจารณาและจัดทำงบประมาณรายรับ รายจ่ายประจำปีของสำนักงานเพื่อเสนออธิการบดีพิจารณาก่อนเสนอสภามหาวิทยาลัยเพื่อพิจารณาอนุมัติ
(๔) พิจารณาการนำเงินรายได้ของสำนักงานไปลงทุนเพื่อประโยชน์ของสำนักงานตามหลักเกณฑ์ที่สภามหาวิทยาลัยกำหนด
(๕) พิจารณาการจัดตั้ง รวม ยุบเลิก และแบ่งส่วนงานภายในสำนักงานเพื่อเสนออธิการบดีพิจารณาก่อนเสนอสภามหาวิทยาลัยเพื่อพิจารณาอนุมัติ
(๖) พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การบริหารงานบุคคลพนักงานสำนักงานและลูกจ้างสำนักงาน
(๗) พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การบริหารการเงิน งบประมาณ การบัญชี การพัสดุ
และทรัพย์สินของสำนักงาน
(๘) พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การตรวจสอบภายใน การควบคุมภายใน และการบริหาร
ความเสี่ยง ให้สอดคล้องกับการดำเนินการของมหาวิทยาลัย
(๙) พิจารณากำหนดแนวทางและควบคุมดูแลการบริหารงาน ตลอดจนแก้ปัญหาต่าง ๆ
ที่เกิดขึ้น
(๑๐) พิจารณาการแต่งตั้งและถอดถอนผู้ทำหน้าที่บริหารหน่วยงานของสำนักงาน
(๑๑) พิจารณากำหนดอัตราค่าธรรมเนียม ค่าบำรุง ค่าตอบแทน เบี้ยปรับ และค่าบริการ
ที่เรียกเก็บจากการดำเนินงานของสำนักงานโดยทำเป็นประกาศของสำนักงาน
(๑๒) พิจารณากำหนดอัตราค่าใช้จ่ายของสำนักงานโดยเสนออธิการบดีเพื่ออนุมัติ เมื่อได้รับอนุมัติแล้วให้ทำเป็นประกาศมหาวิทยาลัยแล้วรายงานให้สภามหาวิทยาลัยทราบ
(๑๓) พิจารณารายงานผลการดำเนินงานรายไตรมาสและรายงานฐานะการเงินประจำปีของสำนักงานเพื่อเสนออธิการบดีพิจารณาก่อนเสนอสภามหาวิทยาลัยเพื่อทราบ
(๑๔) แต่งตั้งและกำหนดค่าตอบแทนคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ คณะทำงาน ที่ปรึกษา
หรือมอบหมายบุคคลเพื่อปฏิบัติงานตามที่คณะกรรมการบริหารมอบหมาย
(๑๕) กำหนดค่าตอบแทนผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ผู้ช่วยรองผู้อำนวยการ และที่ปรึกษาผู้อำนวยการ
(๑๖) ดำเนินการอื่นใดเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของสำนักงาน
ข้อ ๑๒ ให้คณะกรรมการบริหารประชุมอย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง เว้นแต่ในกรณีที่ประธานกรรมการเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องประชุมในเดือนใด จะงดการประชุมในเดือนนั้นก็ได้ โดยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนคณะกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่จึงจะเป็นองค์ประชุม
ให้ประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม
การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่ง
ในการลงคะแนนถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
เงินค่าสมนาคุณ ค่าตอบแทน ค่าเบี้ยประชุม หรือสิทธิประโยชน์อื่นให้แก่คณะกรรมการบริหาร ให้อธิการบดีโดยความเห็นชอบของสภามหาวิทยาลัยกำหนดโดยออกเป็นประกาศมหาวิทยาลัย
หมวด ๓
ผู้อำนวยการ
ข้อ ๑๓ ให้มีผู้อำนวยการที่อธิการบดีแต่งตั้งเป็นผู้บังคับบัญชาและรับผิดชอบงานของสำนักงาน
ผู้อำนวยการต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังนี้
(ก) คุณสมบัติ
(๑) สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาชั้นใดชั้นหนึ่งหรือเทียบเท่าจากมหาวิทยาลัย
หรือสถานศึกษาชั้นสูงอื่นที่สภามหาวิทยาลัยรับรอง
(๒) มีความรู้ความสามารถในด้านที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ของสำนักงานหรือด้านการบริหารงาน
(๓) สามารถปฏิบัติงานในสำนักงานได้เต็มเวลา
(ข) ลักษณะต้องห้าม
(๑) ไม่เป็นอาจารย์ประจำหรือผู้ปฏิบัติงานอื่นซึ่งมีลักษณะเป็นตำแหน่งหน้าที่ประจำของมหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานอื่นใด
(๒) ไม่เป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
(๓) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน
ไม่สมประกอบ
(๔) ไม่เป็นผู้เคยถูกจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิด
ที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(๕) ไม่เป็นผู้เคยถูกสั่งลงโทษวินัยอย่างร้ายแรง หรือถูกให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากราชการ หรือจากรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือหน่วยงานของรัฐเพราะกระทำผิดวินัยหรือจรรยาบรรณ
ในกรณีไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการอธิการบดีอาจแต่งตั้งผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัย
เป็นผู้รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการก็ได้
ข้อ ๑๔ ผู้อำนวยการมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
(๑) บริหารกิจการของสำนักงานให้เป็นไปตามข้อบังคับ ระเบียบ หรือประกาศของมหาวิทยาลัย ตลอดจนคำสั่งหรือการมอบหมายของสภามหาวิทยาลัย อธิการบดี หรือคณะกรรมการบริหาร
(๒) บริหารงานบุคคล การคลัง การเงิน การพัสดุ สถานที่ และทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย
ที่สภามหาวิทยาลัยหรืออธิการบดีมอบหมายให้อยู่ในความดูแลของสำนักงาน ให้เป็นไปตามข้อบังคับ ระเบียบ
หรือประกาศ ตลอดจนคำสั่งหรือการมอบหมายของสภามหาวิทยาลัย อธิการบดี หรือคณะกรรมการบริหาร
(๓) จัดทำแผนพัฒนาสำนักงานเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการบริหารเพื่อพิจารณาและนำเสนอ
สภามหาวิทยาลัยเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ
(๔) ควบคุมและกำกับดูแลการบริหารงานของสำนักงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามข้อ ๖
(๕) ควบคุมดูแลให้มีการปฏิบัติตามนโยบายและแผนงานของสำนักงานที่ได้รับการพิจารณา
ให้ความเห็นชอบหรือได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารหรือสภามหาวิทยาลัยแล้ว
(๖) ดำเนินการเพื่อจัดหารายได้และทรัพยากรอื่นจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการดำเนินภารกิจของสำนักงานให้สำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ
(๗) จัดทำงบประมาณรายรับและงบประมาณรายจ่ายเสนอต่อคณะกรรมการบริหารเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ และนำเสนอสภามหาวิทยาลัยเพื่อพิจารณาอนุมัติ
(๘) จัดทำรายงานประจำปีเกี่ยวกับกิจการด้านต่าง ๆ ของสำนักงานเสนอต่อคณะกรรมการบริหารเพื่อพิจารณาและนำเสนอสภามหาวิทยาลัยเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ
(๙) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามคำสั่งหรือการมอบหมายของสภามหาวิทยาลัย อธิการบดี
หรือคณะกรรมการบริหาร
ข้อ ๑๕ ให้ผู้อำนวยการโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารแต่งตั้งรองผู้อำนวยการ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ผู้ช่วยรองผู้อำนวยการ หรือที่ปรึกษาผู้อำนวยการ ตามจำนวนที่คณะกรรมการบริหารกำหนดเพื่อทำหน้าที่และรับผิดชอบงานตามที่ผู้อำนวยการมอบหมาย
รองผู้อำนวยการต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ในข้อ ๑๓
เมื่อผู้อำนวยการพ้นจากตำแหน่ง ให้รองผู้อำนวยการ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ผู้ช่วยรองผู้อำนวยการ หรือที่ปรึกษาผู้อำนวยการพ้นจากตำแหน่งด้วย
ข้อ ๑๖ ให้ผู้อำนวยการเป็นผู้มีอำนาจดำเนินการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ
ทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย ในนามของสำนักงาน และเป็นผู้ลงนามในบันทึก จดหมาย หรือเอกสารต่าง ๆ ของสำนักงาน หรือทำความตกลงใด ๆ ที่เป็นการดำเนินงานภายในขอบเขตอำนาจหน้าที่ของสำนักงาน
ข้อ ๑๗ ในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการหารายได้ตามอำนาจหน้าที่ของสำนักงาน
ให้ผู้อำนวยการเป็นผู้รับมอบอำนาจจากอธิการบดีในการลงนามในหนังสือหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องกับ
การเสนอราคา หรือเสนอเงื่อนไขการให้บริการ รวมตลอดถึงการลงนามสัญญาหรือข้อตกลงกับคู่สัญญา
หรือบุคคลภายนอกในนามมหาวิทยาลัยตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ว่าด้วยการรักษาการแทนและการมอบอำนาจให้ปฏิบัติการแทน
ข้อ ๑๘ ผู้อำนวยการมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปี และอาจได้รับแต่งตั้งใหม่อีกได้
แต่จะดำรงตำแหน่งเกินสองวาระติดต่อกันมิได้ เว้นแต่กรณีมีเหตุผลความจำเป็นโดยได้รับความเห็นชอบจากสภามหาวิทยาลัย
นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวรรคหนึ่ง ผู้อำนวยการพ้นจากตำแหน่งเมื่อ
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(๔) เป็นหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
(๕) ถูกจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก
(๖) อธิการบดีโดยข้อเสนอของคณะกรรมการบริหารมีมติให้ถอดถอนเพราะขาดประสิทธิภาพ
หมวด ๔
การบริหารงานบุคคล
ข้อ ๑๙ ให้คณะกรรมการบริหารมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของสำนักงานดังต่อไปนี้
(๑) จัดทำนโยบายและแผนงานการบริหารบุคคลเพื่อเสนอสภามหาวิทยาลัยพิจารณาอนุมัติตามรอบระยะเวลาการจัดทำนโยบายและแผนงานบริหารบุคคลพนักงานมหาวิทยาลัยที่สภามหาวิทยาลัยกำหนด
(๒) กำหนดประเภทตำแหน่ง ชื่อตำแหน่ง มาตรฐานกำหนดตำแหน่ง คุณสมบัติทั่วไปและคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งของพนักงานสำนักงาน
(๓) กำหนดบัญชีอัตราเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง ค่าตอบแทน หรือเงินเพิ่มของพนักงานสำนักงาน
(๔) กำหนดอัตรากำลังของสำนักงาน
(๕) พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การสรรหา การบรรจุ แต่งตั้ง และการทำสัญญาปฏิบัติงานของพนักงานสำนักงาน
(๖) พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การทดลองปฏิบัติงาน และการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานสำนักงาน
(๗) พิจารณากำหนดสวัสดิการ สิทธิประโยชน์ ตลอดจนประโยชน์เกื้อกูลต่าง ๆ ให้แก่พนักงานสำนักงาน และลูกจ้างสำนักงาน
(๘) พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์วิธีการเกี่ยวกับการลา การพัฒนาบุคลากร วันเวลาปฏิบัติงานและวันหยุดของสำนักงาน
(๙) พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์วิธีการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารบุคคลที่เป็นลักษณะเฉพาะของสำนักงาน
การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการตามวรรคหนึ่ง เมื่อคณะกรรมการบริหารให้ความเห็นชอบแล้วให้ออกเป็นประกาศสำนักงาน
ข้อ ๒๐ ให้อธิการบดีมีอำนาจเกี่ยวกับการแต่งตั้ง การกำหนดเงินเดือน ค่าตอบแทน
และการทำสัญญาปฏิบัติงานของผู้อำนวยการ
ให้ผู้อำนวยการมีอำนาจเกี่ยวกับการบรรจุแต่งตั้ง และการทำสัญญาปฏิบัติงานของพนักงานสำนักงานตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการบริหารกำหนด
ข้อ ๒๑ ให้สำนักงานจัดให้พนักงานสำนักงานเป็นผู้ประกันตนตามกฎหมายว่าด้วย
การประกันสังคม
คณะกรรมการบริหารโดยความเห็นชอบของผู้อำนวยการ อาจจัดให้มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
ของพนักงานสำนักงาน หรือจัดให้มีการประกันอุบัติเหตุหรือประกันชีวิต หรือจัดให้มีสวัสดิการอื่น
ให้แก่พนักงานสำนักงานได้
ข้อ ๒๒ การบริหารงานบุคคลพนักงานสำนักงานนอกจากที่กำหนดไว้ในข้อบังคับนี้
ให้เป็นไปตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคล วินัยและการดำเนินการทางวินัย
และการอุทธรณ์หรือการร้องทุกข์ของพนักงานมหาวิทยาลัย
ข้อ ๒๓ นอกจากพนักงานสำนักงาน สำนักงานอาจมีลูกจ้างสำนักงานที่เป็นการจ้าง
แบบรายเดือน รายวัน หรือรายชั่วโมงก็ได้ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการบริหารกำหนดและ
ออกเป็นประกาศสำนักงาน
หมวด ๕
การบริหารเงินรายได้ของสำนักงาน
ข้อ ๒๔ ให้สำนักงานเป็นส่วนงานทางการเงินที่มีเงินรายได้ของส่วนงานตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยการบริหารการเงิน งบประมาณ และการบัญชี และให้ดำเนินการรับจ่าย
เก็บรักษา และบริหารเงินรายได้ของสำนักงาน เพื่อการบริหารงานสำนักงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ของสำนักงาน
ข้อ ๒๕ การเบิกเงิน การรับเงิน การจ่ายเงิน และการเก็บรักษาเงินให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์
และวิธีการที่คณะกรรมการบริหารกำหนดและออกเป็นประกาศสำนักงาน
ข้อ ๒๖ ให้เงินรายได้ของมหาวิทยาลัยซึ่งเกิดขึ้นจากการดำเนินงานของสำนักงาน
เป็นเงินรายได้ของสำนักงาน
เงินรายได้ของสำนักงานตามวรรคหนึ่งให้รวมถึง
(๑) รายได้จากการจัดการทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการของสำนักงาน
(๒) รายได้จากการประกอบกิจการ การให้เช่า การขาย การรับจ้าง หรือการให้บริการอื่น
ทั้งที่เป็นการให้บริการแก่ส่วนงานภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย
(๓) รายได้หรือผลประโยชน์จากการลงทุน
(๔) เงินหรือทรัพย์สินอย่างอื่นซึ่งมีผู้อุทิศให้
(๕) เงินอุดหนุนจากมหาวิทยาลัย
(๖) รายได้หรือผลประโยชน์อื่น
ให้สำนักงานเก็บรายได้ไว้ใช้จ่ายได้ตามงบประมาณที่ได้รับอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัย
ตามข้อบังคับนี้ และนำส่งเป็นเงินรายได้ของมหาวิทยาลัยโดยให้สำนักงานจัดส่งให้แก่มหาวิทยาลัยเป็นรายปีตามสัดส่วนและรอบระยะเวลาที่อธิการบดีกำหนดโดยออกเป็นประกาศมหาวิทยาลัย
ข้อ ๒๗ ให้มีกองทุนเพื่อการบริหารและบำรุงรักษาอาคารสถานที่ของสำนักงานที่มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ดำเนินการก่อสร้างอาคารที่เป็นการทดแทนหรือเพิ่มเติมจากที่มีอยู่เดิมและซ่อมแซมอาคารที่เป็น
การซ่อมแซมใหญ่
รายได้และทรัพย์สินของกองทุน มีดังนี้
(๑) เงินหรือทรัพย์สินซึ่งมีผู้อุทิศให้
(๒) เงินหรือผลประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการลงทุนของกองทุน
(๓) เงินกำไรจากการดำเนินงานหลังหักเงินนำส่งมหาวิทยาลัยในแต่ละปี
(๔) ดอกผลที่ได้จากเงินหรือทรัพย์สินหรือผลประโยชน์ตาม (๑) และ (๒)
หลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกองทุนให้คณะกรรมการบริหารโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการเงินกำหนดและอธิการบดีออกเป็นประกาศมหาวิทยาลัย
ข้อ ๒๘ การบริหารการเงิน งบประมาณ การบัญชี และการพัสดุ นอกจากที่กำหนดไว้
ในข้อบังคับนี้ ให้เป็นไปตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยว่าด้วยการบริหารการเงิน งบประมาณ การบัญชี
ในกรณีที่นำข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยการบริหารการเงิน งบประมาณ
และการบัญชีมาใช้บังคับ ให้ผู้อำนวยการปฏิบัติหน้าที่เป็นหัวหน้าส่วนงานทางการเงินตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยการบริหารการเงิน งบประมาณ และการบัญชี และให้คณะกรรมการบริหารปฏิบัติหน้าที่เป็นคณะกรรมการประจำส่วนงานตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วย
การบริหารการเงิน งบประมาณ และการบัญชี
หมวด ๖
การบัญชีและการตรวจสอบ
ข้อ ๒๙ ให้สำนักงานจัดทำบัญชีเกี่ยวกับทรัพย์สิน และการจัดประโยชน์ในทรัพย์สินเพื่อแสดง
ให้เห็นถึงผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของสำนักงานตามมาตรฐานทางการบัญชีที่รับรองทั่วไป
ตามรูปแบบที่มหาวิทยาลัยกำหนด
ข้อ ๓๐ ให้สำนักงานจัดให้มีการตรวจสอบการดำเนินกิจการและการเงินของสำนักงานตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการบริหารกำหนด
ให้ผู้ตรวจสอบตามวรรคหนึ่งจัดทำรายงานผลการตรวจสอบเสนอต่อคณะกรรมการบริหาร
และรายงานต่อสภามหาวิทยาลัยเพื่อทราบอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง
ข้อ ๓๑ เมื่อสิ้นปีงบประมาณให้สำนักงานจัดทำงบการเงินประจำปีส่งให้คณะกรรมการบริหารและอธิการบดีภายในหกสิบวันนับแต่วันสิ้นปีงบประมาณตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่มหาวิทยาลัยกำหนด
เมื่อดำเนินการตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้สำนักงานจัดสรรงบการเงินรวมให้ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ตรวจสอบเพื่อแสดงความเห็นและนำเสนอรายงานการเงินที่ตรวจสอบแล้วพร้อมข้อสังเกตของผู้สอบบัญชี
รับอนุญาตซึ่งผ่านการพิจารณาให้ความเห็นชอบจากคณะกรรมการตรวจสอบของมหาวิทยาลัยแล้ว
ต่อสภามหาวิทยาลัยภายในหนึ่งร้อยห้าสิบวันนับแต่วันสิ้นปีงบประมาณ
บทเฉพาะกาล
ข้อ ๓๒ ให้คณะกรรมการบริหารที่ได้รับการแต่งตั้งตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยสำนักงานบริหารทรัพย์สินและกีฬา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๖๑ ทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการบริหารตามข้อบังคับนี้ต่อไปจนกว่าจะหมดวาระ
ข้อ ๓๓ ให้ผู้อำนวยการที่ได้รับการแต่งตั้งอยู่ก่อนวันที่ข้อบังคับนี้มีผลใช้บังคับเป็นผู้อำนวยการตามข้อบังคับนี้ต่อไปจนกว่าจะครบวาระการดำรงตำแหน่งหรือจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ให้ดำเนินการแต่งตั้งผู้อำนวยการตามข้อบังคับนี้ให้แล้วเสร็จภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ข้อบังคับนี้มีผลใช้ใช้บังคับ
ข้อ ๓๔ ให้ออกประกาศสำนักงานและประกาศมหาวิทยาลัยเพื่อปฏิบัติการตามข้อบังคับนี้ให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่ข้อบังคับนี้มีผลใช้บังคับ
ในระหว่างที่ยังมิได้ออกประกาศสำนักงานหรือประกาศมหาวิทยาลัยเพื่อปฏิบัติการตามข้อบังคับนี้ ให้นำข้อบังคับ ระเบียบ และประกาศที่ใช้อยู่ในวันก่อนวันที่ข้อบังคับนี้ใช้บังคับมาใช้บังคับโดยอนุโลมเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับข้อบังคับนี้
ข้อ ๓๕ ให้การดำเนินงานของสำนักงานที่ได้ดำเนินการตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ว่าด้วยสำนักงานบริหารทรัพย์สินและกีฬา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๖๑ ก่อนวันที่ข้อบังคับนี้
มีผลใช้บังคับ เป็นการดำเนินงานที่มีผลผูกพันต่อไปจนกว่าจะมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงโดยอาศัยอำนาจ
ตามข้อบังคับนี้
ข้อ ๓๖ ให้ส่งเงินหรือทรัพย์สินของกองทุนเพื่อการบริหารและบำรุงรักษาอาคารสถานที่
ของสำนักงานจัดการทรัพย์สิน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มาเป็นเงินรายได้กองทุนเพื่อการบริหาร
และบำรุงรักษาอาคารสถานที่ของสำนักงานตามข้อบังคับนี้
ประกาศ ณ วันที่ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๗
(ศาสตราจารย์สุรพล นิติไกรพจน์)
นายกสภามหาวิทยาลัย