ข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ว่าด้วยจัดหาประโยชน์จากที่ราชพัสดุซึ่งมหาวิทยาลัยปกครอง ดูแล
หรือได้รับมอบหมายให้ใช้ประโยชน์ พ.ศ. ๒๕๕๙
……………………………………………….
โดยที่เป็นการสมควรกําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดหาประโยชน์จากที่ราชพัสดุ ซึ่งมหาวิทยาลัยปกครองดูแล และจัดหาประโยชน์ และที่ดินที่มีผู้อุทิศให้แก่มหาวิทยาลัย
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๒๓ ประกอบมาตรา ๑๔ แห่งพระราชบัญญัติ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๕๘ และโดยมติสภามหาวิทยาลัยในการประชุมครั้งที่ ๙/๒๕๕๙
เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙ เห็นชอบให้ออกข้อบังคับไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยจัดหาประโยชน์
จากที่ราชพัสดุ ซึ่งมหาวิทยาลัยปกครอง ดูแล หรือได้รับมอบหมายให้ใช้ประโยชน์ พ.ศ. ๒๕๕๙”
ข้อ ๒ ข้อบังคับฉบับนี้ให้ใช้บังคับถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในข้อบังคับนี้
“ที่ราชพัสดุ” หมายความว่า ที่ดินอันเป็นที่ราชพัสดุ ซึ่งมหาวิทยาลัยเป็นผู้ปกครอง ดูแล
หรือได้รับมอบหมายให้ใช้ประโยชน์ และให้หมายความรวมถึงอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีผู้อุทิศให้แก่มหาวิทยาลัยด้วย
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการจัดหารายได้หรือผลประโยชน์จากที่ราชพัสดุ
ข้อ ๔ ในการดําเนินการจัดหารายได้หรือผลประโยชน์จากที่ราชพัสดุ ซึ่งมหาวิทยาลัยเป็นผู้ปกครอง ดูแลหรือใช้ประโยชน์ให้กระทําโดยคํานึงถึงวัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัย ความเหมาะสมในการดําเนินการ ตลอดทั้งวัตถุประสงค์ของผู้อุทิศให้แก่มหาวิทยาลัย
ข้อ ๕ ให้มีคณะกรรมการจัดหารายได้หรือผลประโยชน์จากที่ราชพัสดุขึ้นคณะหนึ่งประกอบด้วย รองอธิการบดีที่รับผิดชอบฝ่ายการคลัง เป็นประธาน รองอธิการบดีที่รับผิดชอบฝ่ายวางแผน ประธานสภาอาจารย์ ประธานสภาพนักงานมหาวิทยาลัย เป็นกรรมการโดยตําแหน่ง และกรรมการอื่นซึ่งอธิการบดีแต่งตั้งอีกจํานวน
ไม่น้อยกว่า ๕ คน แต่ไม่เกิน ๙ คน
ให้กรรมการที่อธิการบดีแต่งตั้งมีวาระการดํารงตําแหน่งคราวละ ๒ ปี
ให้คณะกรรมการมีอํานาจพิจารณาดําเนินการจัดหารายได้หรือผลประโยชน์จากที่ราชพัสดุ ตามที่กําหนดในระเบียบนี้
ข้อ ๖ การดําเนินการจัดหารายได้หรือผลประโยชน์จากที่ราชพัสดุ โดยการให้เช่าจะต้องมีลักษณะ ดังต่อไปนี้
(๑) เป็นการให้เช่าที่ดินเพื่อการปลูกสร้างโดยผู้เช่ายกกรรมสิทธิ์ของสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน ที่ให้เช่าแก่มหาวิทยาลัยหรือกระทรวงการคลัง หรือ
(๒) เป็นการให้เช่าที่ดินเพื่อผลประโยชน์อย่างอื่นที่มิใช่เพื่ออยู่อาศัย โดยได้รับความเห็นชอบ ของคณะกรรมการหรือ
(๓) เป็นการให้เช่าทรัพย์สินบนที่ราชพัสดุ
การดําเนินการจัดหารายได้หรือผลประโยชน์จากที่ราชพัสดุ โดยวิธีการอื่นที่มิใช่การเช่า ให้คณะกรรมการเป็นผู้พิจารณาเสนออธิการบดีให้ความเห็นชอบ โดยคํานึงถึงสภาพของการดําเนินการ ความเหมาะสม ตลอดจนวัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัย
การติดตั้งป้ายโฆษณาบนที่ราชพัสดุ ให้ถือว่าเป็นการจัดหารายได้จากที่ราชพัสดุ โดยวิธีอื่นตามวรรคสอง
ข้อ ๗ ให้คณะกรรมการโดยความเห็นชอบของอธิการบดีเป็นผู้กําหนดอัตราค่าเช่า โดยคํานึงถึง ความเหมาะสมและวัตถุประสงค์ของการเช่าตลอดจนทําเลที่ตั้งของที่ดิน แต่อัตราค่าเช่าที่กําหนด
ต้องไม่ต่ำกว่าอัตราค่าเช่าที่ราชพัสดุที่กําหนดไว้ในระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดผลประโยชน์ที่ราชพัสดุ
ข้อ ๘ ให้คณะกรรมการโดยความเห็นชอบจากอธิการบดีเป็นผู้กําหนดระยะเวลาการเช่าได้
ตามความเหมาะสม และตามวัตถุประสงค์ของการให้เช่า โดยคํานึงถึงประโยชน์ของมหาวิทยาลัยและการวางแผน เกี่ยวกับการจัดการศึกษาและการพัฒนามหาวิทยาลัยในอนาคต
การเช่ารายใดที่คณะกรรมการเห็นควรกําหนดระยะเวลาเช่าเกินกว่า ๕ ปี ต้องได้รับ
ความเห็นชอบจากสภามหาวิทยาลัยก่อน
ในกรณีการเช่าที่มีระยะเวลาไม่เกิน ๑ ปี หรือการต่ออายุสัญญาเช่าคราวละไม่เกินหนึ่งปี หรือเป็นการเช่าทรัพย์สินบนที่ราชพัสดุเพื่อประโยชน์แก่การให้บริการภายในมหาวิทยาลัย ซึ่งมีระยะเวลา
ไม่เกิน ๕ ปี อธิการบดีจะพิจารณาอนุมัติดําเนินการแล้วแจ้งให้คณะกรรมการทราบก็ได้
ข้อ ๙ หลักเกณฑ์และวิธีการเช่า เงื่อนไขและแบบสัญญาให้คณะกรรมการเป็นผู้กําหนด
โดยความเห็นชอบของอธิการบดี
ข้อ ๑๐ ในการดําเนินการจัดหารายได้หรือผลประโยชน์บนที่ราชพัสดุ หรืออสังหาริมทรัพย์
ซึ่งมีผู้อุทิศให้มหาวิทยาลัย หากมหาวิทยาลัยได้ปลูกสร้างหรือได้ให้เช่าที่ดินดังกล่าว เพื่อปลูกสร้างอาคารบนที่ดินนั้น เมื่อการปลูกสร้างแล้วเสร็จให้มหาวิทยาลัยแจ้งกรมธนารักษ์ทราบ
ข้อ ๑๑ ในการดําเนินการจัดหารายได้หรือผลประโยชน์ หากจําเป็นต้องรื้อถอนอาคาร
หรือถาวรวัตถุที่ตั้งบนที่ราชพัสดุ ซึ่งมิใช่อสังหาริมทรัพย์ที่มีผู้อุทิศให้มหาวิทยาลัย เมื่อคณะกรรมการ
ให้ความเห็นชอบแล้ว ให้ขอความเห็นชอบจากกรมธนารักษ์ก่อน ๔ วัน เว้นแต่การรื้อถอนอาคารในกรณีดังต่อไปนี้ ให้กระทําได้โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบ คือ
(๑) การรื้อถอนอาคารซึ่งมีการปลูกสร้างอาคารใหม่ขึ้นแทน
(๒) การรื้อถอนอาคารที่ชํารุดจนใช้การไม่ได้
(๓) การรื้อถอนอาคารที่ก่อสร้างมาแล้วไม่น้อยกว่า ๒๕ ปี
ข้อ ๑๒ ในการดําเนินการจัดหารายได้หรือผลประโยชน์ สําหรับที่ราชพัสดุที่มิใช่อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีผู้อุทิศให้มหาวิทยาลัย หากมีภาระหรือค่าธรรมเนียมใด ๆ ซึ่งเจ้าของกรรมสิทธิ์จะต้องรับผิดชอบ ให้มหาวิทยาลัยเป็นผู้รับผิดชอบในค่าภาระหรือค่าธรรมเนียมนั้น ๆ
ข้อ ๑๓ รายได้หรือผลประโยชน์ที่ได้มาจากการดําเนินการตามระเบียบนี้ ให้เป็นรายได้
ของมหาวิทยาลัย ซึ่งไม่เป็นรายได้ที่ต้องส่งกระทรวงการคลังตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง และกฎหมายว่าด้วย
วิธีการงบประมาณ และจะต้องจัดการเพื่อประโยชน์ภายใต้วัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัย
ข้อ ๑๔ การเช่าที่มีระยะเวลาเกินห้าปี การจัดหารายได้หรือผลประโยชน์จากพัสดุกรณีอื่น ๆ
ที่มีความสําคัญ หรือที่มิได้เป็นกรณีที่กําหนดไว้ในระเบียบนี้ ให้กระทําได้โดยความเห็นชอบของสภามหาวิทยาลัย
ข้อ ๑๕ ให้อธิการบดีรักษาการให้เป็นไปตามข้อบังคับนี้ และให้มีอํานาจออกประกาศมหาวิทยาลัย
กําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติเพื่อการปฏิบัติตามข้อบังคับนี้
ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙
(ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร)
นายกสภามหาวิทยาลัย