ข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ว่าด้วยการใช้เครื่องมือทางปัญญาประดิษฐ์ในการจัดการเรียนการสอน การทำวิจัย และการปฏิบัติงาน พ.ศ. ๒๕๖๘
…………………………………………………
โดยที่เป็นการสมควรให้มีข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยการใช้เครื่องมือ
ทางปัญญาประดิษฐ์ในการจัดการเรียนการสอน การทำวิจัย และการปฏิบัติงาน เพื่อให้การใช้เครื่องมือ
ทางปัญญาประดิษฐ์ของมหาวิทยาลัยเป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างสร้างสรรค์ภายใต้หลักจริยธรรม
ทางวิชาการและจริยธรรมทางปัญญาประดิษฐ์
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๓ (๒) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
พ.ศ. ๒๕๕๘ สภามหาวิทยาลัยได้มีมติในการประชุมครั้งที่ ๘/๒๕๖๘ เมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๘ ให้ออกข้อบังคับไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยการใช้เครื่องมือ
ทางปัญญาประดิษฐ์ในการจัดการเรียนการสอน การทำวิจัย และการปฏิบัติงาน พ.ศ. ๒๕๖๘”
ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในข้อบังคับนี้
“มหาวิทยาลัย” หมายความว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“อธิการบดี” หมายความว่า อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“ส่วนงาน” หมายความว่า ส่วนงานตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยการจัดตั้ง
และการแบ่งส่วนงานของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“นักศึกษา” หมายความว่า นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“ผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัย” หมายความว่า ผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยตามกฎหมายว่าด้วยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“บุคคลภายนอก” หมายความว่า บุคคลภายนอกมหาวิทยาลัยที่ได้รับมอบหมายหรือแต่งตั้งจากมหาวิทยาลัยหรือส่วนงานให้ปฏิบัติงานด้านการสอน การทำวิจัย และการปฏิบัติงาน
“เครื่องมือทางปัญญาประดิษฐ์” หมายความว่า เทคโนโลยีที่ถูกออกแบบและพัฒนาให้เครื่องจักรหรือระบบคอมพิวเตอร์มีความชาญฉลาด สามารถคิด คำนวณ วิเคราะห์ เรียนรู้และตัดสินใจได้เสมือนมนุษย์ รวมทั้งสามารถเรียนรู้ พัฒนา และปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อเพิ่มศักยภาพได้เอง
ข้อ ๔ ให้มหาวิทยาลัยสนับสนุนการใช้เครื่องมือทางปัญญาประดิษฐ์บนพื้นฐานความถูกต้อง
ตามหลักจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ในการใช้เครื่องมือทางปัญญาประดิษฐ์ตามข้อบังคับนี้เพื่อการเรียนการสอน การวิจัย และการปฏิบัติงานอย่างสร้างสรรค์ด้วยความรู้ความเข้าใจและความรับผิดชอบต่อสังคมตามวิธีการ ดังต่อไปนี้
(๑) สนับสนุนให้ส่วนงานมีระบบบริหารจัดการทางการศึกษา การจัดการข้อมูลด้านการศึกษา
และนำเข้าข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเครื่องมือทางปัญญาประดิษฐ์ภายใต้หลักจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ในการใช้เครื่องมือทางปัญญาประดิษฐ์และเป็นไปตามกฎหมาย ข้อบังคับ และประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูล
ส่วนบุคคล
(๒) สนับสนุนผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยและบุคคลภายนอกให้ใช้เครื่องมือทางปัญญาประดิษฐ์ในการจัดกิจกรรมด้านการสอนและการประเมินผลเพื่อพัฒนาการสอนให้มีประสิทธิภาพอย่างถูกต้อง
และสร้างสรรค์
(๓) สนับสนุนนักศึกษา ผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัย และบุคคลภายนอกให้ใช้เครื่องมือ
ทางปัญญาประดิษฐ์ในการเรียนรู้ การปฏิบัติงาน และเลือกใช้ข้อมูลที่สืบค้นจากเครื่องมือทางปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างถูกต้องและสร้างสรรค์
ข้อ ๕ ให้มีคณะกรรมการที่อธิการบดีแต่งตั้ง ประกอบด้วย
(๑) รองอธิการบดีที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบดูแลงานด้านวิชาการ เป็นประธานกรรมการ
(๒) รองอธิการบดีที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบดูแลงานด้านวิจัย เป็นรองประธานกรรมการคนที่หนึ่ง
(๓) รองอธิการบดีที่อธิการบดีมอบหมาย เป็นรองประธานกรรมการคนที่สอง
(๔) ผู้ช่วยอธิการบดีที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบดูแลงานด้านวิชาการ เป็นกรรมการ
(๕) ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคมศาสตร์ ด้านมนุษยศาสตร์ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
และด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ด้านละหนึ่งคน เป็นกรรมการ
(๖) ผู้อำนวยการกองบริหารงานวิชาการ เป็นกรรมการและเลขานุการ
ผู้อำนวยการกองบริหารงานวิชาการอาจแต่งตั้งผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยซึ่งสังกัด
กองบริหารงานวิชาการจำนวนไม่เกินสองคน เป็นผู้ช่วยเลขานุการได้
ข้อ ๖ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามข้อ ๕ (๕) มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสองปี
และอาจได้รับการแต่งตั้งใหม่อีกได้
นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวรรคหนึ่ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามข้อ ๕ (๕) พ้นจากตำแหน่งเมื่อ
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(๔) ถูกจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำ
โดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(๕) อธิการบดีสั่งให้พ้นจากตำแหน่งเพราะขาดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน บกพร่องต่อหน้าที่ มีความประพฤติเสื่อมเสีย มีมลทินมัวหมอง หย่อนความสามารถ หรือทุจริตหรือประพฤติมิชอบต่อหน้าที่
ข้อ ๗ ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการว่างลงไม่ว่าด้วยเหตุใด และยังไม่มี
การดำเนินการให้ได้มาซึ่งกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่าง ให้คณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการเท่าที่มีอยู่
ข้อ ๘ ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ เมื่อได้มีการดำเนินการแต่งตั้งกรรมการแทนแล้ว ให้กรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งแทนมีวาระการดำรงตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ที่ตนแทน
ข้อ ๙ ให้คณะกรรมการมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
(๑) กำกับดูแลการใช้เครื่องมือทางปัญญาประดิษฐ์ในการจัดการเรียนการสอน การทำวิจัย
และการปฏิบัติงานของมหาวิทยาลัยและส่วนงานให้เป็นไปตามข้อบังคับนี้ รวมทั้งกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ หรือกฎที่เกี่ยวข้องอื่น
(๒) พิจารณากำหนดแนวทางและแผนการส่งเสริมให้นักศึกษา ผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัย
และบุคคลภายนอกใช้เครื่องมือทางปัญญาประดิษฐ์บนพื้นฐานความถูกต้องตามหลักจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ในการใช้เครื่องมือทางปัญญาประดิษฐ์
(๓) พิจารณากำหนดหลักจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ในการใช้เครื่องมือทางปัญญาประดิษฐ์
โดยออกเป็นประกาศมหาวิทยาลัย
(๔) สอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นเกี่ยวกับการละเมิดหลักจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ในการใช้เครื่องมือทางปัญญาประดิษฐ์หรืออาจแต่งตั้งคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการเพื่อสอบข้อเท็จจริงก็ได้
(๕) ให้คำปรึกษาหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการแก้ไขปรับปรุงข้อบังคับนี้ หรือแนวทาง
การปฏิบัติงานตามข้อบังคับนี้ต่ออธิการบดี
(๖) ดำเนินการอื่นตามที่ได้รับมอบหมายจากสภามหาวิทยาลัยหรืออธิการบดี
ข้อ ๑๐ การนำเครื่องมือทางปัญญาประดิษฐ์มาใช้ต้องไม่กระทำการใดอันเป็นการขัดต่อกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ คำสั่งของมหาวิทยาลัยใด ๆ หรือขัดต่อหลักจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์
ในการใช้เครื่องมือทางปัญญาประดิษฐ์และจรรยาบรรณของวิชาชีพ หรือก่อให้เกิดความเสียหายหรือละเมิด
ต่อผู้อื่น
ข้อ ๑๑ ให้อธิการบดีเป็นผู้รักษาการตามข้อบังคับนี้ และให้มีอำนาจออกประกาศมหาวิทยาลัยเพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อบังคับนี้
ประกาศ ณ วันที่ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๘
(ศาสตราจารย์สุรพล นิติไกรพจน์)
นายกสภามหาวิทยาลัย

