ข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานการให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษา พ.ศ. ๒๕๖๐
………………………………………………..
โดยที่เป็นการสมควรกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานการให้บริการทำวิจัยและ
ให้คำปรึกษาแก่หน่วยงานของรัฐหรือเอกชน องค์การหรือหน่วยงานระหว่างประเทศหรือต่างประเทศ หรือแก่บุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์แก่กิจการของมหาวิทยาลัย
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๓ และมาตรา ๑๔ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๕๘ สภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้มีมติในการประชุม ครั้งที่ ๑/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๐ ให้ออกข้อบังคับไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานการให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษา พ.ศ. ๒๕๖๐”
ข้อ ๒ ข้อบังคับฉบับนี้ให้ใช้บังคับถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในข้อบังคับฉบับนี้
“สำนักงานศูนย์วิจัย” หมายความว่า สำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษา แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“การให้บริการทำวิจัยหรือให้คำปรึกษา” หมายความว่า การรับจ้างทำวิจัย การให้คำปรึกษา และการให้บริการวิชาการอื่นแก่ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ องค์การพัฒนาเอกชน หน่วยงานเอกชน องค์การระหว่างประเทศ หน่วยงานหรือองค์กรต่างประเทศ หรือหน่วยงานหรือองค์กรอื่น
“บุคลากรของมหาวิทยาลัย” หมายความว่า ผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัย
“ผู้รับผิดชอบโครงการ” หมายความว่า ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบทำวิจัยและ
ให้คำปรึกษาที่มหาวิทยาลัยเป็นคู่สัญญา
“คณะกรรมการอำนวยการ” หมายความว่า คณะกรรมการอำนวยการสำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“ผู้อำนวยการ” หมายความว่า ผู้อำนวยการสำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษา แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ข้อ ๔ ให้อธิการบดีรักษาการให้เป็นไปตามข้อบังคับนี้ และให้มีอำนาจออกประกาศ มหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อบังคับนี้
หมวด ๑
หลักเกณฑ์การให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษา
ข้อ ๕ มหาวิทยาลัยอาจนำองค์ความรู้ของมหาวิทยาลัยออกให้บริการทางวิชาการ ด้วยการรับจ้างหรือรับทำวิจัยและให้คำปรึกษากับองค์กรหรือหน่วยงานภาครัฐ องค์การพัฒนาเอกชน หน่วยงานของเอกชน องค์กรระหว่างประเทศ หน่วยงานหรือองค์กรของต่างประเทศ หน่วยงานหรือองค์อื่น หรือแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งก็ได้
ข้อ ๖ ในการให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษา ให้สำนักงานศูนย์วิจัยมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(๑) รับผิดชอบดำเนินการจดและการต่อทะเบียน และการเพิ่มผลงานกับศูนย์ข้อมูลที่ปรึกษากระทรวงการคลัง ในนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
(๒) ติดต่อประสานงานในการจัดทำและยื่นข้อเสนอเพื่อรับให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษา
(๓) ดำเนินการทำสัญญากับคู่สัญญาในการให้บริการทำวิจัยหรือให้คำปรึกษา ในนามมหาวิทยาลัย
(๔) รับเงินค่าจ้าง ค่าบริการ ค่าธรรมเนียม และเงินอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษา
(๕) แต่งตั้งหรือมอบหมายให้คณะทำงานหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งดำเนินการตาม (๒)
(๖) มอบหมายให้ส่วนงานหรือผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เป็นผู้รับผิดชอบการให้บริการทำวิจัยหรือให้คำปรึกษาที่มหาวิทยาลัยเป็นคู่สัญญา
(๗) จ่ายเงินค่าตอบแทนในการจัดทำข้อเสนอให้แก่คณะทำงานหรือบุคคลที่ได้รับมอบหมาย ให้ติดต่อประสานงานในการจัดทำและยื่นข้อเสนอเพื่อรับให้บริการทำวิจัยหรือให้คำปรึกษา ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ผู้อำนวยการโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการอำนวยการกำหนดโดยออกเป็นประกาศสำนักงานศูนย์วิจัย
(๘) จ่ายเงินค่าใช้จ่าย ค่าตอบแทน หรือค่าธรรมเนียมในการให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษาแก่ส่วนงานหรือผู้รับผิดชอบโครงการ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ผู้อำนวยการโดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการอำนวยการกำหนดโดยออกเป็นประกาศสำนักงานศูนย์วิจัย
(๙) ให้คำปรึกษา อำนวยความสะดวก ควบคุม กำกับดูแล และตรวจสอบการปฏิบัติงาน ของผู้รับผิดชอบโครงการ
(๑๐) เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ผลงานวิจัยและให้คำปรึกษาของสำนักงานศูนย์วิจัย
(๑๑) อำนาจหน้าที่อื่นที่สภามหาวิทยาลัยหรืออธิการบดีมอบหมาย
ข้อ ๗ การให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษาที่มีมหาวิทยาลัยเป็นคู่สัญญาให้สำนักงานศูนย์วิจัยเป็นส่วนงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบเพียงส่วนงานเดียวเท่านั้น
ส่วนงานของมหาวิทยาลัยส่วนงานอื่นนอกจากสำนักงานศูนย์วิจัยจะให้บริการทำวิจัยและ
ให้คำปรึกษาตามข้อบังคับนี้มิได้ เว้นแต่เป็นการดำเนินการในนามของสำนักงานศูนย์วิจัย
การให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษาของส่วนงานอื่นในนามสำนักงานศูนย์วิจัยตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อธิการบดีโดยข้อเสนอของคณะกรรมการอำนวยการกำหนดโดยออกเป็นประกาศมหาวิทยาลัย
ข้อ ๘ ในการทำสัญญากับคู่สัญญาการให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษาในนามมหาวิทยาลัยให้ผู้อำนวยการเป็นผู้รับมอบอำนาจจากอธิการบดี ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้ในข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยการมอบอำนาจ
ข้อ ๙ ให้เงินรายได้จากการให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษาเป็นเงินรายได้ของสำนักงานศูนย์วิจัย และให้ใช้ดำเนินการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ และอำนาจหน้าที่ของสำนักงานศูนย์วิจัย
หมวด ๒
การมอบหมายหัวหน้าผู้รับผิดชอบโครงการ
ข้อ ๑๐ ผู้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบการให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษา จะต้องเป็นบุคลากรของมหาวิทยาลัย
การมอบหมายให้บุคลากรคนใดเป็นผู้รับผิดชอบการให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษา
ในเรื่องใด ให้คำนึงถึงปัจจัยอย่างหนึ่งอย่างใดหรือหลายอย่าง ดังต่อไปนี้
(๑) ความสอดคล้องกันของงานกับความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของผู้ที่จะได้รับมอบหมาย
(๒) เป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายให้จัดทำข้อเสนอการบริการทำวิจัยและให้คำปรึกษากับหน่วยงานผู้ว่าจ้างในเรื่องดังกล่าวมาก่อน
(๓) ความพร้อมและภาระงานของผู้รับมอบหมาย
(๔) ผลงานการให้บริการทำวิจัยหรือให้คำปรึกษาที่ผ่านมา
ผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ และผู้ปฏิบัติงานของสำนักงานศูนย์วิจัยจะเป็นผู้รับผิดชอบ
การให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษามิได้ เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการอำนวยการ
ข้อ ๑๑ ในกรณีที่ไม่สามารถมอบหมายบุคลากรของมหาวิทยาลัยเป็นผู้รับผิดชอบโครงการได้ ผู้อำนวยการอาจตกลงให้บุคคลภายนอกซึ่งมิใช่บุคลากรของมหาวิทยาลัยเป็นผู้รับผิดชอบโครงการก็ได้
ทั้งนี้โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการอำนวยการ
การตกลงให้บุคคลภายนอกรับผิดชอบโครงการตามวรรคแรก ต้องได้รับความยินยอม
เป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ว่าจ้างด้วย
ข้อ ๑๒ การมอบหมายผู้รับผิดชอบโครงการของสำนักงานศูนย์วิจัย ให้ทำเป็นลายลักษณ์อักษร โดยต้องมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
(๑) หัวข้อหรือชื่อโครงการที่สำนักงานศูนย์วิจัยรับให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษา
(๒) ชื่อผู้รับผิดชอบโครงการ
(๓) วงเงินค่าวิจัยหรือให้คำปรึกษา
(๔) ค่าธรรมเนียมการบริหารงานวิจัยที่ผู้รับผิดชอบโครงการต้องจ่ายให้แก่สำนักงานศูนย์วิจัย
(๕) ระยะเวลาในการดำเนินการให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษา
(๖) เงื่อนไขระยะเวลาที่สำนักงานศูนย์วิจัยจะจ่ายเงินค่าวิจัยให้แก่ผู้รับผิดชอบโครงการ
(๗) กำหนดระยะเวลาที่ผู้รับผิดชอบโครงการต้องส่งรายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ต่อสำนักงานศูนย์วิจัย
(๘) ความรับผิดชอบของผู้รับผิดชอบโครงการในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามสัญญาการให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษา
(๙) ลายมือชื่อผู้รับผิดชอบโครงการ
ข้อ ๑๓ การให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษาตามข้อบังคับนี้ ให้ถือว่าเป็นการปฏิบัติงานให้กับมหาวิทยาลัย
หมวด ๓
การควบคุม ดูแล
ข้อ ๑๔ ให้สำนักงานศูนย์วิจัยติดตามความก้าวหน้าของการให้บริการทำวิจัยหรือให้คำปรึกษาเพื่อให้เป็นไปตามสัญญาจ้าง และเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามระยะเวลาของแผนการดำเนินงาน ให้มีอำนาจเร่งรัดการปฏิบัติของผู้รับผิดชอบโครงการให้บริการและคำให้ปรึกษาได้
ข้อ ๑๕ ให้สำนักงานศูนย์วิจัยกำหนดให้ผู้รับผิดชอบโครงการบริการทำวิจัยและให้คำปรึกษาส่งมอบงานล่วงหน้าในเวลาอันควรก่อนครบกำหนดเวลาตามสัญญา
ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นทำให้ผู้รับผิดชอบโครงการ ไม่อาจส่งมอบงานต่อสำนักงานศูนย์วิจัยได้ภายในกำหนดเวลาตามวรรคแรก สำนักงานศูนย์วิจัยอาจขยายระยะเวลาดังกล่าวให้แก่ผู้รับผิดชอบโครงการได้เมื่อผู้รับผิดชอบโครงการยื่นคำร้องขอโดยมีเหตุผลอันสมควร ทั้งนี้ระยะเวลาที่ขยายให้แก่ผู้รับผิดชอบโครงการต้องไม่เกินกำหนดระยะเวลาตามสัญญาให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษาที่สำนักงานศูนย์วิจัยได้ทำไว้
ต่อผู้ว่าจ้าง
ข้อ ๑๖ ผู้รับผิดชอบโครงการบริการวิจัยและให้คำปรึกษา ต้องจัดทำรายงานความก้าวหน้าของการให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษาตามระยะเวลาที่สำนักงานศูนย์วิจัยกำหนด
(๑) งานให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษาที่ได้ดำเนินการไปแล้ว
(๒) งานให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษาที่จะดำเนินการต่อไป
(๓) ปัญหาและอุปสรรคที่ทำให้การให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษาไม่เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดไว้
(๔) เวลาที่คาดว่าจะส่งงานให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษาให้แก่สำนักงานศูนย์วิจัย
ข้อ ๑๗ ในกรณีที่ผู้รับผิดชอบโครงการไม่สามารถดำเนินงานวิจัยได้แล้วเสร็จหรือไม่สามารถ
ส่งงานได้ภายในกำหนดเวลาตามสัญญา หรือตามที่ผู้ว่าจ้างอนุมัติให้ขยายเวลาออกไป และเป็นเหตุทำให้สำนักงานศูนย์วิจัยต้องรับผิดชอบชำระค่าปรับ หรือค่าเสียหายตามสัญญาให้แก่ผู้ว่าจ้าง ให้สำนักงานศูนย์วิจัยมีอำนาจไล่เบี้ยเอาจากผู้รับผิดชอบโครงการได้
หมวด ๔
การให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษาโดยส่วนงานอื่น
ข้อ ๑๘ การให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษาโดยส่วนงานอื่นตามข้อ ๗ ให้นำความ
ในหมวด ๒ และหมวด ๓ มาใช้โดยอนุโลม
บทเฉพาะกาล
ข้อ ๑๙ การให้บริการวิจัยและให้คำปรึกษาที่ได้ดำเนินการอยู่ก่อนวันที่ข้อบังคับมีผลใช้บังคับและยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ให้ดำเนินการตามข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ คำสั่งที่เกี่ยวข้องกับหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานการให้บริการทำวิจัยและให้คำปรึกษาที่มีผลบังคับใช้อยู่ก่อนหน้านี้จนกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ
ประกาศ ณ วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๐
(ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร)
นายกสภามหาวิทยาลัย