ประกาศมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เรื่อง หลักเกณฑ์และอัตราเงินประจำตำแหน่งและค่าตอบแทนของพนักงานมหาวิทยาลัย
สายสนับสนุนวิชาการ ซึ่งดำรงตำแหน่งระดับชำนาญการและระดับชำนาญการพิเศษ
พ.ศ. ๒๕๖๒
—————————–
โดยที่เห็นเป็นการสมควรกำหนดหลักเกณฑ์และอัตราเงินประจำตำแหน่งและค่าตอบแทนของพนักงานมหาวิทยาลัยสายสนับสนุนวิชาการ ซึ่งดำรงตำแหน่งระดับชำนาญการและชำนาญการพิเศษ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓๙ แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๕๘ ประกอบข้อ ๒๗ ของข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่าด้วยการบริหารงานบุคคลพนักงานมหาวิทยาลัย
พ.ศ. ๒๕๕๙ อธิการบดีโดยข้อเสนอของคณะกรรมการบริหารบุคคล ในการประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๐ จึงออกประกาศ ไว้ดังนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรื่อง หลักเกณฑ์และอัตราเงินประจำตำแหน่งและค่าตอบแทนของพนักงานมหาวิทยาลัยสายสนับสนุนวิชาการ ซึ่งดำรงตำแหน่งระดับชำนาญการและชำนาญการพิเศษ พ.ศ. ๒๕๖๒”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในประกาศนี้
“พนักงานมหาวิทยาลัย สายสนับสนุนวิชาการ” หมายความว่า บุคคลที่ได้รับการบรรจุ
และแต่งตั้งให้ปฏิบัติงานในตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะ หรือตำแหน่งประเภทบริการวิชาการและสนับสนุน
การบริหาร ทั้งที่จ้างด้วยเงินงบประมาณแผ่นดิน และเงินรายได้ของมหาวิทยาลัยหรือส่วนงาน สังกัดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“เงินประจำตำแหน่ง” หมายความว่า เงินประจำตำแหน่งที่กำหนดขึ้นสำหรับพนักงานมหาวิทยาลัย สายสนับสนุนวิชาการ ที่ได้รับการแต่งตั้งและปฏิบัติงานในตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะ
หรือตำแหน่งประเภทบริการวิชาการและสนับสนุนการบริหาร ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับชำนาญการหรือชำนาญการพิเศษ
“ค่าตอบแทน” หมายความว่า เงินที่จ่ายเพิ่มให้กับพนักงานมหาวิทยาลัย สายสนับสนุนวิชาการ ที่นอกเหนือจากเงินเดือนสำหรับพนักงานมหาวิทยาลัยสายสนับสนุนวิชาการ ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับชำนาญการหรือชำนาญการพิเศษ
ข้อ ๔ พนักงานมหาวิทยาลัย สายสนับสนุนวิชาการ ที่มีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่ง
และค่าตอบแทนตามประกาศฉบับนี้ หากมีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่งและค่าตอบแทนประเภทอื่นอีก ให้ได้รับสิทธิสูงสุดเพียงประเภทเดียวเท่านั้น
ข้อ ๕ ให้พนักงานมหาวิทยาลัย สายสนับสนุนวิชาการ ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับชำนาญการพิเศษ ได้รับเงินประจำตำแหน่ง ดังนี้
(๑) ตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะ ให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งในอัตราเดือนละ ๕,๖๐๐ บาท
(๒) ตำแหน่งประเภทบริการวิชาการและสนับสนุนการบริหาร ให้ได้รับเงินประจำตำแหน่ง
ในอัตราเดือนละ ๓,๕๐๐ บาท
ข้อ ๖ การเบิกจ่ายเงินประจำตำแหน่งของพนักงานมหาวิทยาลัยสายสนับสนุนวิชาการที่จ้างด้วยเงินงบประมาณแผ่นดิน ให้เบิกจ่ายจากเงินงบประมาณแผ่นดิน งบเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายบุคลากร
กรณีพนักงานมหาวิทยาลัยสายสนับสนุนวิชาการที่จ้างด้วยเงินรายได้ของมหาวิทยาลัย
หรือส่วนงาน ให้เบิกจ่ายจากเงินรายได้ของมหาวิทยาลัยหรือส่วนงาน
ข้อ ๗ การจ่ายเงินประจำตำแหน่งให้จ่ายเป็นรายเดือน ดังนี้
(๑) พนักงานมหาวิทยาลัยที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับชำนาญการพิเศษอยู่ก่อนวันที่ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับ ให้จ่ายเงินประจำตำแหน่งในอัตราที่กำหนดตามข้อ ๕ ตั้งแต่วันที่ประกาศฉบับนี้มีผล
ใช้บังคับเป็นต้นไป
(๒) พนักงานมหาวิทยาลัยที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับชำนาญการพิเศษตั้งแต่วันที่ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับ ให้จ่ายเงินประจำตำแหน่งในอัตราที่กำหนดตามข้อ ๕ ตั้งแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับชำนาญการพิเศษจนครบกำหนดสามปี
ข้อ ๘ เงื่อนไขการจ่ายเงินประจำตำแหน่งพนักงานมหาวิทยาลัยที่ดำรงตำแหน่งระดับชำนาญการพิเศษ ตามข้อ ๗ (๒) จะได้รับเงินประจำตำแหน่ง ดังนี้
(๑) หากประสงค์จะขอรับเงินประจำตำแหน่งต่อไปอีกจากการครบกำหนดสามปีตามข้อ ๗ (๒) จะต้องเป็นผู้ที่มีผลการประเมินการปฏิบัติงานในระดับดีมากขึ้นไปของรอบที่ผ่านมาและยื่นผลงานเพื่อขอรับ
การประเมินต่อส่วนงานภายใน ๖ เดือนก่อนครบกำหนดการจ่ายเงินประจำตำแหน่ง และให้ส่วนงานดำเนินการตาม ข้อ ๙
(๒) หากครบกำหนดการจ่ายเงินประจำตำแหน่ง พนักงานมหาวิทยาลัยที่ดำรงตำแหน่งระดับชำนาญการพิเศษผู้ใด ไม่ส่งผลงานขอรับการประเมิน ให้พักการจ่ายเงินประจำตำแหน่ง
(๓) ตามข้อ ๘ (๒) หากภายหลัง ผู้ดำรงตำแหน่งระดับชำนาญการพิเศษผู้ใด ประสงค์ยื่นผลงานขอรับการประเมินเพื่อขอรับเงินประจำตำแหน่ง ให้ส่วนงานดำเนินการตาม ข้อ ๙
ทั้งนี้ วันที่จ่ายเงินประจำตำแหน่งต่อเนื่อง กรณีข้อ ๘ (๑) ให้จ่ายได้ตั้งแต่วันถัดจากวันที่ครบกำหนดสามปี และกรณีข้อ ๘ (๓) ให้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่กองทรัพยากรมนุษย์รับเรื่อง
ข้อ ๙ เมื่อพนักงานมหาวิทยาลัยยื่นผลงานขอรับการประเมินเพื่อขอรับเงินประจำตำแหน่ง
ให้ส่วนงาน ดำเนินการดังนี้
(๑) แต่งตั้งคณะกรรมการประเมิน ซึ่งประกอบด้วยกรรมการที่เป็นบุคคลภายในหรือภายนอก
ส่วนงานที่มีระดับตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับชำนาญการพิเศษ จำนวน ๓ คน ทำหน้าที่ประเมินผลงาน ทั้งนี้ ลักษณะของผลงานให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ผลงานตามที่กำหนดไว้ในประกาศมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับชำนาญการพิเศษของพนักงานมหาวิทยาลัย สายสนับสนุนวิชาการ พ.ศ. ๒๕๖๑
(๒) กรณีผลงานผ่านการประเมินจากคณะกรรมการประเมิน ให้ส่วนงานส่งผลการประเมินให้
กองทรัพยากรมนุษย์ ดำเนินการขออนุมัติต่อไป
(๓) กรณีผลงานไม่ผ่านการประเมินให้รายงานผลไปยังหัวหน้าส่วนงานของผู้ขอรับการประเมิน และให้หัวหน้าส่วนงานดำเนินการแจ้งผลการประเมินให้ผู้ขอรับการประเมินทราบ
ข้อ ๑๐ ในกรณีพนักงานมหาวิทยาลัย สายสนับสนุนวิชาการ ที่เปลี่ยนสถานภาพจากข้าราชการ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับชำนาญการหรือชำนาญการพิเศษอยู่ก่อนเปลี่ยนสถานภาพ ให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งและค่าตอบแทน ดังนี้
(๑) กรณีดำรงตำแหน่งประเภทวิชาชีพระดับชำนาญการที่เคยได้รับเงินประจำตำแหน่งในอัตราเดือนละ ๓,๕๐๐ บาท ก่อนเปลี่ยนสถานภาพ ให้มีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่งในอัตราที่ได้รับอยู่ต่อไป
(๒) กรณีดำรงตำแหน่งประเภทเชี่ยวชาญเฉพาะระดับชำนาญการพิเศษที่เคยได้รับค่าตอบแทน ในอัตราเดือนละ ๓,๕๐๐ บาท ก่อนเปลี่ยนสถานภาพ ให้มีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่งในอัตราเดือนละ ๓,๕๐๐ บาท
(๓) กรณีดำรงตำแหน่งประเภทวิชาชีพระดับชำนาญการพิเศษที่เคยได้รับเงินประจำตำแหน่ง
ในอัตราเดือนละ ๕,๖๐๐ บาทและได้รับค่าตอบแทนในอัตราเดือนละ ๕,๖๐๐ บาท ก่อนเปลี่ยนสถานภาพ ให้มีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่งและได้รับค่าตอบแทนในอัตราที่ได้รับอยู่ต่อไป
ข้อ ๑๑ หลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินประจำตำแหน่งและค่าตอบแทนให้ถือปฏิบัติเช่นเดียวกับการเบิกจ่ายเงินค่าจ้าง และให้เป็นไปตามประกาศมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรื่อง หลักเกณฑ์วิธีการ อำนาจการพิจารณาอนุญาตการลา และการได้รับค่าจ้างระหว่างลาของพนักงานมหาวิทยาลัย โดยอนุโลม
ประกาศ ณ วันที่ ๒๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๒
(รองศาสตราจารย์เกศินี วิฑูรชาติ)
อธิการบดี