ข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ว่าด้วยการประเมินคุณสมบัติและผลงานเพื่อกำหนดตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์ที่มีคุณสมบัติเทียบเท่า
ศาสตราจารย์ได้รับเงินประจำตำแหน่งสูงขึ้นของพนักงานมหาวิทยาลัย (เปลี่ยนสถานภาพ) พ.ศ. ๒๕๖๔
______________________
โดยที่เป็นการสมควรกำหนดให้มีข้อบังคับว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินคุณสมบัติ
และผลงานเพื่อกำหนดให้พนักงานมหาวิทยาลัย (เปลี่ยนสถานภาพ) เป็นศาสตราจารย์ที่มีคุณสมบัติเทียบเท่าศาสตราจารย์ได้รับเงินประจำตำแหน่งสูงขึ้น
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๓ (๒) ประกอบมาตรา ๑๐๕ แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๕๘ และโดยมติสภามหาวิทยาลัยในการประชุมครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๓
เมื่อวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๓ เห็นชอบให้ออกข้อบังคับไว้ดังนี้
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยการประเมินคุณสมบัติ
และผลงานเพื่อกำหนดตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์ที่มีคุณสมบัติเทียบเท่าศาสตราจารย์ได้รับเงินประจำตำแหน่งสูงขึ้นของพนักงานมหาวิทยาลัย (เปลี่ยนสถานภาพ) พ.ศ. ๒๕๖๔”
ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่ถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในข้อบังคับนี้
“พนักงานมหาวิทยาลัย (เปลี่ยนสถานภาพ)” หมายความว่า พนักงานมหาวิทยาลัยที่ได้รับการเปลี่ยนสถานภาพจากข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มาเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยการเปลี่ยนสถานภาพของข้าราชการมาเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๕๘
“ศาสตราจารย์ได้รับเงินประตำแหน่งสูงขึ้น” หมายความว่า ข้าราชการพลเรือน
ในสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งได้รับการกำหนดตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์รับเงินประจำตำแหน่งสูงขึ้น
ข้อ ๔ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับเฉพาะกับพนักงานมหาวิทยาลัย (เปลี่ยนสถานภาพ) เท่านั้น
ข้อ ๕ หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินคุณสมบัติและงานทางวิชาการเพื่อให้พนักงานมหาวิทยาลัย (เปลี่ยนสถานภาพ) ซึ่งดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์เป็นศาสตราจารย์ที่มีคุณสมบัติเทียบเท่าศาสตราจารย์
ที่ได้รับเงินประจำตำแหน่งสูงขึ้น ให้เป็นไปตามประกาศ ก.พ.อ. ที่ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินคุณสมบัติและผลงานทางวิชาการเพื่อให้ผู้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ได้รับเงินประจำตำแหน่งสูงขึ้น
โดยอนุโลม
ข้อ ๖ ให้อธิการบดีเป็นผู้รักษาการตามข้อบังคับนี้
ประกาศ ณ วันที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๔
(ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร)
นายกสภามหาวิทยาลัย