ข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ว่าด้วยการแต่งตั้งศาสตรเมธาจารย์ พ.ศ. ๒๕๕๒
______________________
โดยที่เป็นการสมควรให้มีข้อบังคับว่าด้วยการแต่งตั้งศาสตรเมธาจารย์ เพื่อเป็นการยกย่อง เชิดชู และสนับสนุนอาจารย์ประจำที่ดำรงตำแหน่งทางวิชาการในระดับ “ศาสตราจารย์” ของคณะต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัย ซึ่งมีความเป็นเลิศในทางวิชาการให้สามารถธำรงความเป็นเลิศทางวิชาการ โดยการผลิต
และเผยแพร่ตำรา วิจัย ตลอดจนผลงาน วิชาการในรูปแบบอื่นที่มีคุณภาพเป็นเลิศให้แก่สาธารณชนระดับชาติ และนานาชาติอย่างต่อเนื่อง
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘ (๒) และ (๑๐) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๓๑ สภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จึงตราข้อบังคับไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ชื่อข้อบังคับ
ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่าด้วยการแต่งตั้งศาสตรเมธาจารย์ พ.ศ. ๒๕๕๒”
ข้อ ๒ เวลามีผลใช้บังคับ
ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป
ข้อ ๓ บทนิยาม
ในข้อบังคับนี้
“มหาวิทยาลัย” หมายความว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“สภามหาวิทยาลัย” หมายความว่า สภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“คณะ” หมายความรวมถึง วิทยาลัย สถาบัน สำนัก หรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะที่มีหน้าที่ในการจัดการเรียนการสอนหรือการวิจัย
“คณบดี” หมายความรวมถึง ผู้อำนวยการสถาบัน ผู้อำนวยการสำนัก หรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะที่มีหน้าที่ในการจัดการเรียนการสอนและหรือการวิจัย
ข้อ ๔ ชื่อตำแหน่ง
ชื่อตำแหน่งที่เป็นภาษาไทย <ศาสตรเมธาจารย์> ชื่อผู้สนับสนุนทางการเงิน <สาขาวิชา
ที่เชี่ยวชาญ>
ชื่อตำแหน่งที่เป็นภาษาอังกฤษ
ข้อ ๕ คุณสมบัติของศาสตรเมธาจารย์
ผู้ที่จะได้รับการเสนอแต่งตั้งเป็นศาสตรเมธาจารย์ จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
(๑) เป็นศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
(๒) เป็นผู้มีผลงานวิชาการที่มีคุณภาพดีเลิศ ออกสู่สังคมอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา ๕ ปี
ที่ผ่านมา โดยเฉพาะผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ เป็นที่ยอมรับในระดับชาติและนานาชาติ
(๓) เป็นผู้แสดงออกถึงความมุ่งมั่น และมีศักยภาพ ตลอดจนมีแผนงานที่ชัดเจนในการผลิตผลงานทางวิชาการที่มีคุณภาพดีเลิศอย่างต่อเนื่องในช่วงระยะ ๓ ปีข้างหน้า
(๔) เป็นผู้ที่ไม่มีประวัติด่างพร้อยในด้านคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณในวิชาชีพ
ข้อ ๖ ภารกิจของศาสตรเมธาจารย์
ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นศาสตรเมธาจารย์ จะต้องมีภารกิจดังนี้
(๑) ผลิต และเผยแพร่ผลงานวิชาการที่ต่อยอดองค์ความรู้เดิมที่มีอยู่ให้มีความลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น รวมถึงการผลิตองค์ความรู้ใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม แวดวงวิชาการ และภาคธุรกิจ ทั้งในระดับประเทศ และระดับนานาชาติ
(๒) ทำหน้าที่พี่เลี้ยงทางวิชาการให้กับคณาจารย์ทั้งใน และนอกมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และมีศักยภาพในการพัฒนาไปสู่นักวิชาการคุณภาพเลิศในระดับนานาชาติ
(๓) จัดกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ความรู้ในด้านที่เป็นความเชี่ยวชาญให้กับคณาจารย์ นักวิชาการ และบุคลากรในอุตสาหกรรมของผู้สนับสนุนทางการเงิน
(๔) รายงานผลการปฏิบัติงานทางวิชาการประจำปี ต่อคณะกรรมการประจำคณะ
ข้อ ๗ คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกศาสตรเมธาจารย์
ให้มีคณะกรรมการขึ้นชุดหนึ่ง เรียกว่า คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกศาสตรเมธาจารย์ ประกอบด้วย กรรมการประจำคณะประเภทผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นประธาน ผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกในสาขาวิชา
ที่เกี่ยวข้อง จำนวน ๓ คน และผู้แทนองค์กรที่มอบทุน จำนวน ๑ คน เป็นกรรมการ
ให้คณบดีเป็นผู้พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกศาสตรเมธาจารย์ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการประจำคณะ
ข้อ ๘ การดำเนินการแต่งตั้งศาสตรเมธาจารย์
ในการเสนอแต่งตั้งผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นศาสตรเมธาจารย์ ให้ดำเนินการดังนี้
(๑) ให้คณบดี และหรือหัวหน้าสาขาวิชา/ภาควิชา เสนอชื่อผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็น
ศาสตรเมธาจารย์ต่อคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกศาสตรเมธาจารย์ และคณะกรรมการประจำคณะเพื่อพิจารณาเป็นรายกรณี ทั้งนี้ ให้จัดทำรายละเอียดประวัติ ผลงานวิชาการในระรอบระยะเวลา ๕ ปีที่ผ่านมา แผนงานด้านวิชาการในระยะเวลา ๓ ปีข้างหน้า และกำหนดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งศาสตรเมธาจารย์
ของผู้ได้รับการเสนอชื่อ
(๒) ให้นำเสนอสภามหาวิทยาลัยพิจารณาแต่งตั้ง
(๓) ในการลงมติของคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกศาสตรเมธาจารย์ คณะกรรมการประจำคณะ และสภามหาวิทยาลัย ให้ใช้วิธีลงคะแนนลับ และให้ถือคะแนนเสียงข้างมากของที่ประชุม
ข้อ ๙ การแต่งตั้งศาสตรเมธาจารย์
การแต่งตั้งศาสตรเมธาจารย์ ให้จัดทำเป็นประกาศมหาวิทยาลัย
ข้อ ๑๐ เงินสนับสนุนสำหรับตำแหน่งศาสตรเมธาจารย์
เงินสนับสนุนสำหรับตำแหน่งศาสตรเมธาจารย์ ต้องได้รับการสนับสนุนจากผู้สนับสนุนทางการเงินเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาทต่อปี และในระยะเวลาตามความประสงค์ของผู้สนับสนุนทางการเงิน โดยมีการรายงานผลการปฏิบัติงานทางวิชาการเป็นรายปี
ข้อ ๑๑ การประเมินผล
ให้คณะกรรมการประจำคณะพิจารณารายงานผลการปฏิบัติงานทางวิชาการประจำปีของ
ศาสตรเมธาจารย์ควบคู่กับแผนงานทางวิชาการที่นำเสนอ และรายงานสภามหาวิทยาลัยเพื่อทราบ
ข้อ ๑๒ การรักษาการตามข้อบังคับ
ให้อธิการบดีเป็นผู้รักษาการตามข้อบังคับนี้ และมีอำนาจออกประกาศ คำสั่งหรือการอื่น
ที่เกี่ยวข้องเพื่อปฏิบัติการตามข้อบังคับนี้
ประกาศ ณ วันที่ ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๒
(ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล)
นายกสภามหาวิทยาลัย