ข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ว่าด้วยตำแหน่งธรรมศาสตราจารย์ พ.ศ. ๒๕๓๐
______________________
ด้วยสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยการประชุมสภามหาวิทยาลัยครั้งที่ ๔/๒๕๓๐
เมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๓๐ การประชุมสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ ๕/๒๕๓๐ เมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๓๐ และการประชุมสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ ๘/๒๕๓๐ เมื่อวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๓๐ เห็นสมควรกำหนดให้มีตำแหน่ง “ธรรมศาสตราจารย์” เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติแก่ผู้ที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อย่างใหญ่หลวง จึงได้กำหนดข้อบังคับเกี่ยวกับตำแหน่งธรรมศาสตราจารย์ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยตำแหน่งธรรมศาสตราจารย์ พ.ศ. ๒๕๓๐”
ข้อ ๒ ให้ใช้ข้อบังคับนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ข้อ ๓ ผู้ที่จะได้รับเสนอแต่งตั้งเป็นธรรมศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จะต้อง
มีคุณสมบัติ ดังนี้
๓.๑ จะต้องเป็นผู้ที่เคยเป็นศาสตราจารย์มาก่อน
๓.๒ ได้ทำคุณประโยชน์แก่มหาวิทยาลัยอย่างใหญ่หลวง
๓.๓ เป็นนักวิชาการที่มีความเหมาะสมในตำแหน่งธรรมศาสตราจารย์ มีชื่อเสียง
มีความรู้ความสามารถและมีคุณธรรมเป็นที่ยอมรับของมหาวิทยาลัยและคนทั่วไป
ข้อ ๔ การแต่งตั้ง
ในการเสนอแต่งตั้งผู้ที่สมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็นธรรมศาสตราจารย์นั้น ให้ดำเนินการดังนี้
๔.๑ ให้ผู้บริหารหรือกรรมการสภามหาวิทยาลัยเสนอชื่อผู้ที่สมควรได้รับการแต่งตั้ง
ต่อสภามหาวิทยาลัยเพื่อพิจารณาเป็นรายกรณี
๔.๒ ในการลงมติแต่งตั้งของสภามหาวิทยาลัยนั้น ให้ใช้วิธีลงคะแนนโดยวิธีลับ
และให้ถือเสียงข้างมากเป็นประมาณ
ข้อ ๕ วาระที่อยู่ในตำแหน่ง
ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจะได้รับตำแหน่งธรรมศาสตราจารย์ไปตลอดชีวิตของบุคคลนั้น
ข้อ ๖ สิ่งตอบแทนที่จะได้รับจากมหาวิทยาลัย
ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นธรรมศาสตราจารย์ มหาวิทยาลัยจะพิจารณาสิ่งตอบแทนเพื่อเสริมเกียรติยศในตำแหน่งดังกล่าวตามความเหมาะสม ซึ่งสภามหาวิทยาลัยจะเป็นผู้กำหนดและประกาศเป็นคราว ๆ ไป
ข้อ ๗ ให้อธิการบดีรักษาการตามข้อบังคับนี้
ประกาศ ณ วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๐
(ศาสตราจารย์ประภาศน์ อวยชัย)
นายกสภามหาวิทยาลัย