ประกาศมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เรื่อง ทุนสนับสนุนนักวิจัยหลังปริญญาเอกศักยภาพสูง (Thammasat Postdoctoral Fellowship)
พ.ศ. ๒๕๖๔
—————————————-
ด้วยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีนโยบายในการส่งเสริมและพัฒนาผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัย
ให้มุ่งสู่ความเป็นเลิศ โดยการจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนการผลิตผลงานวิจัยทั้งปริมาณและคุณภาพ
ให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ คณะกรรมการบริหารงานวิจัยและกองทุนวิจัย ในคราวประชุมครั้งที่
๒/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๓ จึงได้กำหนดให้มีทุนสนับสนุนนักวิจัยหลังปริญญาเอกศักยภาพสูง (Thammasat Postdoctoral Fellowship)
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓๙ แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๕๘ ประกอบข้อ ๑๖ วรรคสอง ของข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยการบริหารงานวิจัยและกองทุนวิจัย พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารงานวิจัยและกองทุนวิจัยในคราวประชุม
ครั้งที่ ๒/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๓ ออกประกาศไว้ดังนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรื่อง ทุนสนับสนุนนักวิจัย
หลังปริญญาเอกศักยภาพสูง (Thammasat Postdoctoral Fellowship) พ.ศ. ๒๕๖๔”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในประกาศนี้
“มหาวิทยาลัย” หมายความว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“กองทุน” หมายความว่า กองทุนวิจัยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการบริหารงานวิจัยและกองทุนวิจัย
“ผู้รับทุน” หมายความว่า นักวิจัยหลังปริญญาเอกศักยภาพสูง
หมวด ๑
ทุนสนับสนุนนักวิจัยหลังปริญญาเอกศักยภาพสูง (Thammasat Postdoctoral Fellowship)
ข้อ ๔ ทุนสนับสนุนนักวิจัยหลังปริญญาเอกศักยภาพสูง (Thammasat Postdoctoral Fellowship) มีวัตถุประสงค์ ดังนี้
(๑) ส่งเสริมและพัฒนาผลงานวิจัยและนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยให้มุ่งสู่ความเป็นเลิศทางด้าน
การวิจัย
(๒) เสริมสร้างความแข็งแกร่งของนักวิจัยหลังปริญญาเอก ในการทำงานวิจัยเพื่อเผยแพร่ให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ
(๓) เพิ่มผลงานวิจัยคุณภาพสูงที่เผยแพร่ในวารสารทางวิชาการระดับนานาชาติที่อยู่ในฐานข้อมูล SJR ในอันดับสูงสุดร้อยละสิบ (TOP ๑๐%) ของสาขา
ข้อ ๕ ทุนสนับสนุนนักวิจัยหลังปริญญาเอกศักยภาพสูง (Thammasat Postdoctoral Fellowship) ประกอบด้วย
(๑) ทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายประจำเดือน อัตราเดือนละ ๕๐,๐๐๐ บาท
(๒) ทุนเพื่อเป็นค่าที่พักกรณีเป็นนักวิจัยชาวต่างประเทศ อัตราเดือนละ ๑๐,๐๐๐ บาท
(๓) ทุนสำหรับอาจารย์หรือนักวิจัยที่ปรึกษา อัตราปีละ ๔๐,๐๐๐ บาท
ข้อ ๖ คณะกรรมการเป็นผู้พิจารณาจัดสรรทุน และให้ถือเป็นที่สุด
หมวด ๒
ผู้รับทุน
ข้อ ๗ ผู้รับทุนต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
(๑) เป็นนักวิจัยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกมหาวิทยาลัย
(๒) เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก หรือเทียบเท่า
(๓) มีอาจารย์หรือนักวิจัยที่ปรึกษาที่เป็นคณาจารย์ประจำหรือนักวิจัยของมหาวิทยาลัยดูแลนักวิจัยหลังปริญญาเอกตามระยะเวลาที่คณะกรรมการกำหนดและให้การรับรองว่าผู้รับทุนสามารถปฏิบัติงานวิจัยได้เต็มเวลาตลอดช่วงการรับทุน มีผลงานวิจัยที่ได้มีการเผยแพร่และมีศักยภาพทำงานวิจัยให้แล้วเสร็จส่งมอบงานได้ภายในเวลาที่กำหนด
อาจารย์หรือนักวิจัยที่ปรึกษาตาม (๓) ต้องมีผลงานทางวิชาการที่อยู่ในฐานข้อมูล SJR ในอันดับสูงสุดร้อยละสิบ (TOP ๑๐%) ของสาขา หรือ ผลงานวิชาการอื่น เช่น International book chapter หรือผลงานที่เป็นประโยชน์ และมีผลกระทบสูงต่อสังคมที่สามารถแสดงให้เห็นได้อย่างประจักษ์ ภายในระยะเวลาสามปี ทั้งนี้ อาจารย์หรือนักวิจัยที่ปรึกษาต้องไม่เป็นอาจารย์หรือนักวิจัยที่ปรึกษาของผู้ได้รับทุนเกินกว่า สามคน
หมวด ๓
การขอรับทุน หน้าที่ของผู้รับทุน การระงับการให้ทุน
ข้อ ๘ หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการยื่นคำขอรับทุนประจำปี ให้เป็นไปตามประกาศของคณะกรรมการ
ข้อ ๙ ผู้รับทุนต้องทำสัญญาให้ไว้ต่อมหาวิทยาลัยตามแบบสัญญาแนบท้ายประกาศนี้
ข้อ ๑๐ ผู้รับทุนต้องรายงานความก้าวหน้าต่อคณะกรรมการ ทุกรอบหกเดือน ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนด
เมื่อครบกำหนดระยะเวลาการรับทุน นักวิจัยหลังปริญญาเอกต้องส่งผลงานวิจัยที่ได้รับ
การตอบรับให้ตีพิมพ์หรือได้รับการตีพิมพ์แล้วในวารสารที่อยู่ในฐานข้อมูล SJR ในอันดับสูงสุดร้อยละสิบ (TOP ๑๐%) ของสาขา โดยมีชื่ออาจารย์หรือนักวิจัยที่ปรึกษาและนักวิจัยหลังปริญญาเอกอยู่ในรายชื่อผู้แต่งและระบุในกิตติกรรมประกาศว่า “This study was supported by Thammasat Postdoctoral Fellowship”
ข้อ ๑๑ คณะกรรมการ อาจพิจารณาระงับการให้ทุนแก่ผู้รับทุนได้ในกรณีหนึ่งกรณีใด ดังต่อไปนี้
(๑) ผู้รับทุนขาดคุณสมบัติข้อหนึ่งข้อใดตามข้อ ๗
(๒) ผู้รับทุนไม่รายงานความก้าวหน้าภายในระยะเวลาที่กำหนดโดยไม่มีเหตุอันสมควร
(๓) มีเหตุอื่นให้เชื่อได้ว่า ผู้รับทุนไม่สามารถทำงานวิจัยให้แล้วเสร็จหรือผลงานวิจัยไม่สามารถได้รับการตอบรับการตีพิมพ์ตามข้อ ๑๐ วรรคสอง
ข้อ ๑๒ ผู้รับทุนที่ไม่ดำเนินการตามข้อ ๑๐ ให้มหาวิทยาลัยขึ้นบัญชีรายชื่อผู้รับทุนผู้นั้นเป็นผู้ที่
มีประวัติค้างส่งงานวิจัยของมหาวิทยาลัย และไม่สามารถขอรับทุนตามประกาศนี้ได้อีก
ให้อาจารย์หรือนักวิจัยที่ปรึกษาดำเนินการตามข้อ ๑๐ แทนผู้รับทุนจนกว่าจะแล้วเสร็จ แต่หากอาจารย์หรือนักวิจัยที่ปรึกษาไม่สามารถดำเนินการได้ ให้มหาวิทยาลัยขึ้นบัญชีรายชื่ออาจารย์หรือนักวิจัยที่ปรึกษาผู้นั้นเป็นผู้ที่มีประวัติค้างส่งงานวิจัยของมหาวิทยาลัย และไม่สามารถขอรับทุนตามประกาศนี้ได้อีกเป็นระยะเวลาห้าปี และทุนอื่นของฝ่ายวิจัยและนวัตกรรมเป็นระยะเวลาหนึ่งปี
ข้อ ๑๓ ให้อธิการบดีรักษาการตามประกาศนี้
ประกาศ ณ วันที่ 22 มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๔
(รองศาสตราจารย์เกศินี วิฑูรชาติ)
อธิการบดี