ข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการจัดตั้งหรือร่วมกับบุคคลอื่นจัดตั้งนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด พ.ศ. ๒๕๖๒
______________________
โดยที่เป็นการสมควรกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการจัดตั้งหรือร่วมกับบุคคลอื่น
ในการจัดตั้งองค์กรที่เป็นนิติบุคคลเพื่อดำเนินกิจการที่เกี่ยวกับหรือต่อเนื่องกับกิจการของมหาวิทยาลัย
หรือนำผลการค้นคว้าวิจัยไปเผยแพร่หรือหาประโยชน์เพื่อเป็นรายได้ของมหาวิทยาลัย
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๔ (๑๑) มาตรา ๑๔ วรรคสอง และมาตรา ๒๓ (๑๔)
แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๕๘ และโดยมติสภามหาวิทยาลัยในการประชุม
ครั้งที่ ๒/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ เห็นชอบให้ออกข้อบังคับไว้ดังนี้
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการจัดตั้งหรือร่วมกับบุคคลอื่นจัดตั้งนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด พ.ศ. ๒๕๖๒”
ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในข้อบังคับนี้
“มหาวิทยาลัย” ให้หมายความรวมถึงส่วนงานของมหาวิทยาลัยที่ได้รับอนุมัติจากอธิการบดี
ให้จัดตั้งบริษัทจำกัดในนามมหาวิทยาลัยโดยส่วนงานนั้นด้วย
ข้อ ๔ มหาวิทยาลัยอาจจัดตั้งหรือร่วมกับบุคคลอื่นจัดตั้งบริษัทจำกัดเพื่อกิจการ ดังต่อไปนี้
(๑) นำทรัพย์สินทางปัญญาที่มหาวิทยาลัยหรือผู้ปฏิบัติงานของมหาวิทยาลัยเป็นผู้ทรงสิทธิ
ออกหาประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
(๒) ให้บริการทางวิชาการแก่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ หน่วยงาน
หรือองค์การของต่างประเทศ หรือระหว่างประเทศ หรือเอกชน
ข้อ ๕ ทุนในการลงหุ้นจัดตั้งหรือร่วมกับบุคคลอื่นจัดตั้งบริษัทจำกัด อาจมีได้ดังนี้
(๑) ทรัพย์สินทางปัญญาตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยการมีสิทธิในทรัพย์สิน
ทางปัญญาและการจัดหาประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญา
(๒) เงินลงทุนของมหาวิทยาลัยหรือส่วนงาน
ในการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นทุนในการจัดตั้งหรือร่วมกับบุคคลอื่นจัดตั้งบริษัทจำกัด
ให้คณะกรรมการบริหารทรัพย์สินทางปัญญาตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยการมีสิทธิ
ในทรัพย์สินทางปัญญาและการจัดหาประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาเป็นผู้รับผิดชอบประเมินมูลค่า
ทางพาณิชย์ของทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อแปลงเป็นหุ้นในบริษัทจำกัดที่จะได้รับการแต่งตั้ง แต่หากกรณี
ที่คณะกรรมการบริหารทรัพย์สินทางปัญญาประเมินแล้วเห็นว่ามีมูลค่าเกินกว่าหนึ่งล้านบาทขึ้นไป
ให้คณะกรรมการบริหารทรัพย์สินทางปัญญาดำเนินการจัดให้มีผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นบุคคลภายนอก
เป็นผู้ประเมินมูลค่าทางพาณิชย์
ในการใช้เงินหรือทรัพย์สินอื่นเป็นทุนจัดตั้งหรือร่วมกับบุคลอื่นจัดตั้งบริษัทจำกัด ให้สำนักงานบริหารทรัพย์สินและกีฬา รับผิดชอบประเมินมูลค่าทางพาณิชย์เพื่อแปลงเป็นหุ้นในบริษัทจำกัดที่จะได้รับ
การจัดตั้ง
ข้อ ๖ ในบริษัทจำกัดที่มหาวิทยาลัยจัดตั้งขึ้น ให้มหาวิทยาลัยถือหุ้นในสัดส่วนไม่น้อยกว่า
ร้อยละเก้าสิบห้า และนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยถือหุ้นในสัดส่วนไม่เกินร้อยละห้า
ข้อ ๗ มหาวิทยาลัยอาจเข้าร่วมกับบุคคลอื่นที่มีลักษณะดังต่อไปนี้จัดตั้งบริษัทจำกัด
(๑) เป็นผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นผู้ทรงสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาที่เป็นสินค้า
หรือบริการของบริษัทจำกัดที่จะจัดตั้งขึ้น
(๒) เป็นบุคคลอื่นที่สภามหาวิทยาลัยให้ความเห็นชอบ
ในบริษัทจำกัดตามวรรคหนึ่งให้มหาวิทยาลัยและผู้ถือหุ้นถือหุ้นในสัดส่วนตามที่กำหนดไว้
ในสัญญาหรือข้อตกลง แต่ทั้งนี้ ในสัญญาหรือข้อตกลงนั้นต้องระบุให้คงสัดส่วนการถือหุ้นของมหาวิทยาลัยไว้
เท่าเดิม และหากจะมีการเพิ่มหรือลดทุนของบริษัทจำกัดนั้นได้ต้องได้รับการให้ความยินยอมจากมหาวิทยาลัยก่อนทุกครั้ง
ข้อ ๘ เมื่อมีการแต่งตั้งกรรมการผู้จัดการบริษัทจำกัดที่มหาวิทยาลัยเป็นผู้ถือหุ้น ให้อธิการบดีแจ้งชื่อกรรมการผู้จัดการบริษัทจำกัดและผลตอบแทนของกรรมการผู้จัดการบริษัทจำกัดให้สภามหาวิทยาลัยทราบภายใน ๖๐ วัน นับแต่วันที่ได้มีการแต่งตั้งกรรมการผู้จัดการ
ข้อ ๙ อธิการบดีโดยความเห็นชอบของสภามหาวิทยาลัยอาจอนุมัติให้บริษัทจำกัด
ตามข้อบังคับนี้ดำเนินการเพิ่มทุนหรือการลดทุน การเลิกบริษัทจำกัด หรือการควบบริษัทจำกัดเข้าด้วยกันก็ได้
ข้อ ๑๐ ให้มีการรายงานผลการประกอบการของบริษัทจำกัดตามข้อบังคับนี้
ให้สภามหาวิทยาลัยทราบอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง
ข้อ ๑๑ ให้อธิการบดีเป็นผู้รักษาการตามข้อบังคับนี้ และให้มีอำนาจออกประกาศมหาวิทยาลัยเพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อบังคับนี้
ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๒
(ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร)
นายกสภามหาวิทยาลัย