ข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ว่าด้วยโครงสร้างและการบริหารงานภายในส่วนงาน
(ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒
………………………………………………..
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยโครงสร้างและการบริหารงานภายในส่วนงาน พ.ศ. ๒๕๕๙ แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ ๖ พ.ศ. ๒๕๖๑
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๓ (๒) ประกอบมาตรา ๑๐ มาตรา ๔๔ มาตรา ๔๖ มาตรา ๔๗
มาตรา ๔๘ มาตรา ๕๐ และมาตรา ๕๑ แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๕๘
และโดยมติสภามหาวิทยาลัยในการประชุมครั้งที่ ๑๒/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
ให้ออกข้อบังคับไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยโครงสร้างและการบริหารงานภายในส่วนงาน (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒”
ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้มีผลใช้บังคับถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความในข้อ ๘ องค์ประกอบคณะกรรมการสรรหาคณบดี ของข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยโครงสร้างและการบริหารงานภายในส่วน พ.ศ. ๒๕๕๙ ที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง
ฉบับที่ ๖ พ.ศ. ๒๕๖๑ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ ๘ องค์ประกอบคณะกรรมการสรรหาคณบดี
ให้มีคณะกรรมการสรรหาคณบดีที่สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้ง ประกอบด้วย
(๑) กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิที่สภามหาวิทยาลัยมอบหมายคนหนึ่ง
เป็นประธานกรรมการ
(๒) อธิการบดี เป็นรองประธานกรรมการ
(๓) ประธานสภาอาจารย์ เป็นกรรมการ
(๔) ผู้แทนคณาจารย์ประจำคณะหรือวิทยาลัย จำนวนหนึ่งคน เป็นกรรมการ
(๕) ผู้แทนผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยที่มิใช่คณาจารย์ประจำของคณะหรือวิทยาลัย
จำนวนหนึ่งคน เป็นกรรมการ
(๖) ผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก จำนวนหนึ่งคน เป็นกรรมการ
(๗) เลขานุการสภามหาวิทยาลัย เป็นเลขานุการ
ให้ผู้อำนวยการสำนักงานสภามหาวิทยาลัยเป็นผู้ช่วยเลขานุการ และอาจให้มีผู้ช่วยเลขานุการที่แต่งตั้งจากเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเลขานุการสภามหาวิทยาลัยอีกหนึ่งคนก็ได้
ในกรณีประธานกรรมการพ้นจากตำแหน่งกรรมการสภามหาวิทยาลัยตามวาระ ให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานกรรมการต่อไปจนกว่าการดำเนินการสรรหาคณบดีจะเสร็จสิ้น แต่หากผู้นั้นไม่ประสงค์จะเป็นประธานกรรมการ ให้สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิคนอื่นเป็นประธานกรรมการแทน
ในกรณีที่กรรมการตาม (๔) พ้นจากการเป็นคณาจารย์ประจำของคณะหรือวิทยาลัย หรือกรรมการตาม (๕) พ้นจากการเป็นผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยที่มิใช่คณาจารย์ประจำของคณะหรือวิทยาลัย
ให้ผู้นั้นพ้นจากตำแหน่งกรรมการ
ในกรณีที่ไม่มีกรรมการตาม (๓) หรือมีการพ้นจากตำแหน่งกรรมการตามวรรคสี่
ให้คณะกรรมการสรรหาคณบดีประกอบด้วยกรรมการเท่าที่มี
ข้อ ๔ ให้ยกเลิกความในข้อ ๕๙ องค์ประกอบคณะกรรมการสรรหา ของข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยโครงสร้างและการบริหารงานภายในส่วนงาน พ.ศ. ๒๕๕๙ ที่แก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่ ๖ พ.ศ. ๒๕๖๑ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ ๕๙ องค์ประกอบคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการสถาบันหรือสำนัก
ให้มีคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการสถาบันหรือสำนักที่สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้ง ประกอบด้วย
(๑) อธิการบดี เป็นประธานกรรมการ
(๒) กรรมการสภามหาวิทยาลัยที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่สภามหาวิทยาลัยมอบหมายคนหนึ่ง
เป็นกรรมการ
(๓) ประธานสภาอาจารย์ และประธานสภาพนักงานมหาวิทยาลัย เป็นกรรมการ
(๔) ผู้แทนปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยของสถาบันหรือสำนัก จำนวนหนึ่งคน เป็นกรรมการ
(๕) ผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกที่คณะกรรมการประจำสถาบันหรือสำนักเสนอชื่อ จำนวนสองคน
เป็นกรรมการ
(๖) เลขานุการสภามหาวิทยาลัย เป็นเลขานุการ
ให้ผู้อำนวยการสำนักงานสภามหาวิทยาลัยเป็นผู้ช่วยเลขานุการ และอาจให้มีผู้ช่วยเลขานุการที่แต่งตั้งจากเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเลขานุการสภามหาวิทยาลัยอีกหนึ่งคนก็ได้
ในกรณีกรรมการตาม (๒) พ้นจากตำแหน่งกรรมการสภามหาวิทยาลัยตามวาระ ให้ผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่กรรมการต่อไปจนกว่าการดำเนินการสรรหาผู้อำนวยการสถาบันหรือสำนักจะเสร็จสิ้น แต่หากผู้นั้นไม่ประสงค์จะเป็นกรรมการ ให้สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิคนอื่นเป็นกรรมการแทน
ในกรณีกรรมการตาม (๔) พ้นจากการเป็นผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยของสถาบันหรือสำนักให้พ้นจากตำแหน่งกรรมการ
ในกรณีที่ไม่มีกรรมการตาม (๓) หรือมีการพ้นจากตำแหน่งกรรมการตามวรรคสี่ให้คณะกรรมการ
สรรหาผู้อำนวยการสถาบันหรือสำนักประกอบด้วยกรรมการเท่าที่มี
ประกาศ ณ วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๒
(ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร)
นายกสภามหาวิทยาลัย