ระเบียบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ว่าด้วยการใช้จ่ายเงินอุดหนุนการวิจัยที่ได้รับจากเงินงบประมาณแผ่นดิน
พ.ศ. ๒๕๔๙
—————————–

โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงแก้ไขแนวทางการปฏิบัติที่สำคัญเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินอุดหนุนทั่วไป ประเภทเงินอุดหนุนการวิจัยที่ได้รับจากเงินงบประมาณแผ่นดินให้เหมาะสมและสอดคล้องกับระบบกลไกของการส่งเสริมสนับสนุนงานวิจัยของมหาวิทยาลัยที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘ (๑๐) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
พ.ศ. ๒๕๓๑ สภามหาวิทยาลัย จึงตราระเบียบไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ชื่อระเบียบ
ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่าด้วยการใช้จ่ายเงินอุดหนุน
การวิจัยที่ได้รับจากเงินงบประมาณแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๔๙”
ข้อ ๒ การมีผลใช้บังคับ
ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับกับโครงการวิจัยที่ได้รับเงินอุดหนุนการวิจัยจากเงินงบประมาณแผ่นดินปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๐ เป็นต้นไป
ข้อ ๓ บทนิยาม
ในระเบียบนี้
“มหาวิทยาลัย” หมายถึง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“คณะ” ให้หมายความรวมถึง หน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ สถาบัน ที่มีภารกิจหลักด้านการวิจัย ซึ่งเป็นต้นสังกัดของนักวิจัย หรือเป็นหน่วยงานที่เสนอโครงการวิจัยในนามของหน่วยงาน
“คณะกรรมการ” หมายถึง คณะกรรมการบริหารงานวิจัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ตามระเบียบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่าด้วยการบริหารงานวิจัยและกองทุนวิจัยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
พ.ศ. ๒๕๔๘
“กองคลัง” หมายถึง กองคลัง สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ข้อ ๔ อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ
ให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(๑) พิจารณาความเหมาะสมของโครงการวิจัย จัดสรรงบประมาณ ติดตามผล และประเมินผลการวิจัย
(๒) อนุมัติเงินงวดวิจัยตามที่คณะเสนอขออนุมัติเบิกจ่ายเงิน
(๓) พิจารณารายงานความก้าวหน้า และรายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์
(๔) อนุมัติการขยายเวลาดำเนินการวิจัย การเปลี่ยนแปลง หรือการยกเลิกการวิจัย
คณะกรรมการอาจมอบอำนาจให้รองอธิการบดีหรือผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิจัย เป็นผู้ดำเนินการต่าง ๆ ตามที่ได้รับมอบหมายเป็นกรณีไป
ข้อ ๕ การดำเนินการเพื่อขออนุมัติเบิกจ่ายเงิน
ให้หน่วยงานเสนอเรื่องขอความสนับสนุนโครงการวิจัยมายังฝ่ายวิจัย โครงการวิจัยใดได้รับอนุมัติเงินจากสำนักงบประมาณแล้ว ให้คณะเสนอขออนุมัติเบิกเงินงวดวิจัยจากคณะกรรมการ
เมื่อได้รับอนุมัติเบิกเงินงวดวิจัยตามวรรคหนึ่ง ให้คณะนำเงินที่ได้รับเปิดบัญชีเงินฝากประเภทออมทรัพย์ไว้กับธนาคารที่เป็นรัฐวิสาหกิจก่อน โดยระบุชื่อบัญชีโครงการวิจัยตามที่ได้รับอนุมัติ ในกรณีไม่มีธนาคารที่เป็นรัฐวิสาหกิจซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ให้นำฝากธนาคารพาณิชย์ที่คณะกรรมการกำหนด
ดอกผลที่เกิดจากการฝากเงินตามวรรคก่อนให้คณะนำส่งกองคลังภายใน ๑๔ วันนับตั้งแต่วันสิ้นปีงบประมาณ
ข้อ ๖ การควบคุมการใช้จ่ายเงินอุดหนุนโดยคณะ
ให้คณะมีหน้าที่โดยทั่วไปในการควบคุมการใช้จ่ายเงินอุดหนุนการวิจัยให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการวิจัยและเป็นไปตามระเบียบนี้
ข้อ ๗ การจ่ายงวดเงินวิจัย
ให้คณะจ่ายเงินแก่หัวหน้าโครงการวิจัยเป็น ๓ งวด ดังนี้
(๑) งวดแรก เป็นเงินจำนวนร้อยละ ๔๐ ของเงินอุดหนุนการวิจัยที่ได้รับอนุมัติ กำหนดจ่ายให้เมื่อคณะได้รับอนุมัติเงินงวดวิจัยตามข้อ ๖ วรรคหนึ่ง
(๒) งวดที่สอง เป็นเงินจำนวนร้อยละ ๔๐ ของเงินอุดหนุนการวิจัยที่ได้รับอนุมัติ กำหนดจ่ายให้เมื่อส่งรายงานความก้าวหน้าของโครงการวิจัยภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการกำหนดขึ้นตามความเหมาะสมของแต่ละโครงการวิจัย
(๓) งวดที่สาม เป็นเงินจำนวนร้อยละ ๒๐ ของเงินอุดหนุนการวิจัยที่ได้รับอนุมัติ กำหนดจ่ายให้เมื่อจัดส่งรายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ที่ผ่านการประเมินและได้ปรับปรุงแก้ไข (ถ้ามี) ตามข้อ ๑๖
และส่งหลักฐานในการเสนอขอตีพิมพ์เรียบร้อยแล้ว
ข้อ ๘ ขอบเขตของการใช้จ่ายเงิน
การจ่ายเงินให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และงบประมาณของโครงการวิจัยแต่ละโครงการ

ข้อ ๙ หลักฐานการจ่ายเงิน
ในการจ่ายเงินสำหรับค่าใช้จ่ายของโครงการวิจัย หัวหน้าโครงการวิจัยจะต้องดำเนินการเกี่ยวกับหลักฐานการจ่ายเงินให้เป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลังของส่วนราชการ
ให้หัวหน้าโครงการวิจัยจัดส่งหลักฐานสำหรับการจ่ายเงินตามวรรคหนึ่งให้แก่คณะเพื่อรับการตรวจสอบ
ข้อ ๑๐ การจ่ายเงินสำหรับค่าใช้จ่ายอื่น
การจ่ายเงินสำหรับค่าใช้จ่ายอื่นนอกจากที่กำหนดไว้ในข้อ ๑๑ ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการกำหนด
ข้อ ๑๑ ค่าครุภัณฑ์
การจ่ายเงินสำหรับค่าครุภัณฑ์ในการวิจัย ให้จ่ายได้ภายในวงเงินที่คณะกรรมการกำหนด
ครุภัณฑ์ตามวรรคหนึ่ง จะต้องเป็นครุภัณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ หรือทางวิทยาศาสตร์การแพทย์หรือครุภัณฑ์ที่ใช้สำหรับทดลองในห้องปฏิบัติการที่จำเป็นและภายในคณะยังมีไม่เพียงพอต่อการวิจัยเท่านั้น
เมื่อโครงการวิจัยแล้วเสร็จ หรือได้รับอนุมัติให้ยกเลิกตามข้อ ๑๗ ให้หัวหน้าโครงการวิจัย
ส่งมอบครุภัณฑ์ตามวรรคหนึ่งแก่คณะ เพื่อดำเนินการขึ้นทะเบียนเป็นครุภัณฑ์ของมหาวิทยาลัยต่อไป
ข้อ ๑๒ เวลาในการจ่ายเงินและเงินเหลือจ่าย
ในการจ่ายเงินสำหรับค่าใช้จ่ายของโครงการวิจัย ให้จ่ายได้ภายในปีงบประมาณ กรณีที่มีเงินเหลืออยู่และยังไม่สิ้นสุดโครงการ ให้นำเงินที่เหลือไปจ่ายในปีงบประมาณต่อไปได้ ทั้งนี้ ต้องไม่เกินระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในโครงการวิจัยนั้น
กรณีสิ้นสุด หรือยกเลิกโครงการ หากปรากฏว่ามีเงินเหลืออยู่ในบัญชีเงินฝากธนาคารให้คณะนำส่งกองคลังโดยไม่ชักช้า
ข้อ ๑๓ การรายงานความก้าวหน้าและการติดตามผล
หัวหน้าโครงการวิจัยต้องส่งรายงานความก้าวหน้าแก่คณะเพื่อนำส่งต่อคณะกรรมการอย่างน้อย
ปีละ ๒ ครั้ง หรือทุก ๖ เดือน เว้นแต่คณะกรรมการจะกำหนดเป็นอย่างอื่น
คณะกรรมการอาจติดตาม หรือสอบถามความก้าวหน้าของโครงการวิจัยตามความเหมาะสม
ข้อ ๑๔ กำหนดเวลาส่งรายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์และการขยายระยะเวลาจัดส่งรายงาน
หัวหน้าโครงการวิจัยต้องส่งรายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์และส่งหลักฐานในการเสนอขอตีพิมพ์
ต่อคณะ เพื่อนำส่งต่อคณะกรรมการภายในกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดโครงการวิจัย
ให้กรณีที่มีเหตุผลจำเป็นทำให้ไม่สามารถดำเนินการตามวรรคหนึ่ง หัวหน้าโครงการวิจัยอาจยื่นคำขอขยายระยะเวลาต่อคณะกรรมการก่อนครบกำหนดเวลาไม่น้อยกว่า ๑ เดือน พร้อมกับเสนอรายงานความก้าวหน้า
การพิจารณาขยายระยะเวลาข้างต้น ให้ขยายได้ไม่เกิน ๒ ครั้ง ๆ ละไม่เกิน ๖ เดือน
ข้อ ๑๕ การประเมินผลงานวิจัย
ในการพิจารณาผลงานวิจัยตามข้อ ๑๔ คณะกรรมการอาจกำหนดตัวผู้อ่านซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการก็ได้
เมื่อคณะกรรมการพิจารณาประเมินผลรายงานวิจัยแล้ว ถ้าเห็นควรแก้ไข ให้หัวหน้าโครงการวิจัยแก้ไข และจัดส่งรายงานวิจัย พร้อมบทความสรุปผลงานวิจัยเพื่อการเผยแพร่จำนวน ๕ ชุดพร้อมแผ่นบันทึกข้อมูลที่บันทึกผลงานวิจัย รหัสผ่าน (ถ้ามี) ต่อคณะกรรมการโดยไม่ชักช้าเพื่อเบิกจ่ายเงินงวดสุดท้ายต่อไป
ข้อ ๑๖ ลิขสิทธิ์และการจัดพิมพ์เผยแพร่
ลิขสิทธิ์ของผลงานวิจัยตามระเบียบนี้ให้เป็นของผู้วิจัย
ในการจัดพิมพ์เผยแพร่ไม่ว่ากรณีใด ๆ จะต้องระบุว่าเป็นผลงานวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนจากงบประมาณแผ่นดินประจำปีงบประมาณที่ได้รับอนุมัติด้วย
ข้อ ๑๗ การขอขยายระยะเวลา เปลี่ยนแปลง และยกเลิกโครงการ
ในกรณีที่หัวหน้าโครงการวิจัยประสงค์จะขอขยายเวลาดำเนินการวิจัย ขอเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกโครงการวิจัย ให้เสนอเรื่องผ่านคณะ เพื่อขออนุมัติจากคณะกรรมการ
ในกรณีที่ได้รับอนุมัติให้ยกเลิกการทำวิจัย ให้หัวหน้าโครงการวิจัยนำเงินอุดหนุนการทำวิจัยที่ได้รับไปแล้วทั้งจำนวนส่งคืนคณะภายใน ๑๔ วันนับแต่ได้รับแจ้งการอนุมัติตามวรรคหนึ่ง และให้คณะนำส่งกองคลังต่อไป
กรณีมีเหตุอันสมควร คณะกรรมการอาจอนุมัติให้ยกเลิกการทำวิจัยโดยไม่ต้องคืนเงินที่ได้รับและจ่ายไปแล้วในการวิจัย แต่หัวหน้าโครงการวิจัยจะต้องแสดงหลักฐานการจ่ายเงินดังกล่าวให้คณะกรรมการตรวจสอบก่อนได้รับอนุมัติด้วย
ข้อ ๑๘ ผู้รักษาการตามระเบียบ
ให้อธิการบดีรักษาการตามระเบียบนี้

ประกาศ ณ วันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๙

(ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล)
นายกสภามหาวิทยาลัย